นายวีระพงค์ ลือสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พีรพัฒน์ เทคโนโลยี (PRAPAT) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 67 จะเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะยอดขายในประเทศ หลังจากยอดนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างคึกคักตั้งแต่ต้นปี ช่วยหนุนให้ยอดขายสินค้าเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่บริษัทมีศูนย์ขายสินค้ากระจายทั่วภูมิภาค 9 แห่ง เป็น 7 ศูนย์ธุรกิจใน กรุงเทพฯ, ภูเก็ต, พัทยา, ชะอำ, สมุย, เชียงใหม่ และหาดใหญ่ รวมถึง 2 สาขาในกาญจนบุรี และกระบี่ โดยยอดขายหลักกว่า 50% มาจากศูนย์ธุรกิจกรุงเทพฯ ภูเก็ต และพัทยา
และในปีนี้บริษัทจะเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศเต็มกำลัง โดยจะเริ่มรับรู้รายได้จากยอดขายจากโชว์รูมและคลังสินค้าบนเกาะฟู้โกว๊กของเวียดนามที่จะทยอยเข้ามาอย่างเป็นทางการตั้งแต่ไตรมาส 1/67 เป็นต้นไป ส่วนบริษัทร่วมทุน "แคลวาทิส" ผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดฆ่าเชื้อ และอุปกรณ์ภายในโรงงานอาหารและเครื่องดื่มที่ประเทศกัมพูชา คาดว่าจะเริ่มมีรายได้เชิงพาณิชย์ ตั้งแต่ไตรมาส 2/67
บริษัทยังมีแผนรุกขยายตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน โดยตั้งเป้าบุกตลาดที่มีศักยภาพ เพิ่มสัดส่วนรายได้และยอดการส่งออก โดยเน้นตลาดกลุ่มประเทศ CLMV เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและบริการ ที่ทำให้เกิดการเติบโตของตลาด Cleaning Hygiene Solutions รวมถึงการเตรียมกลับไปดำเนินธุรกิจในตลาดอินโดนีเซียอีกครั้ง หลังจากที่หยุดไปในช่วงโควิด-19 ตั้งแต่ปี 64
ขณะเดียวกัน บริษัทยังเตรียมลุยธุรกิจการค้าสู่เอเชียใต้ ทั้งการแสวงหาตลาด การขยายฐานการลงทุนและการผลิตในประเทศศรีลังกาและประเทศบังกลาเทศ เป็นตลาดใหญ่ที่มีความน่าสนใจมีศักยภาพในหลายมิติ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายไปยังพื้นที่ ที่ยังไม่เคยเข้าถึงมาก่อน และขยายส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มประเทศเอเชียใต้ เพิ่มรายได้และการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต
"บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ปี 67 ยอดขายต่างประเทศจะโตต่อเนื่องรับดีมานด์พุ่ง พร้อมตั้งเป้ารายได้จากต่างประเทศเติบโต 20-25% และมีทิศทางการเติบโตได้ดีต่อเนื่องในทุกๆ ปี อย่างไรก็ตามตั้งเป้ารายได้รวมในปีนี้เติบโตที่ระดับ 18%" นายวีระพงค์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานปี 66 บริษัทมีรายได้รวม 1,072.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนมีรายได้รวม 958.70 ล้านบาท ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ 51.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 24.24 ล้านบาท ส่วนงวดไตรมาส 4/66 รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 275.96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีรายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 266.77% ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 15.70 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% จากช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 12.52 ล้านบาท
ไตรมาส 4/66 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวของปีก่อน 4.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.86% ประกอบด้วยรายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ซักรีด 4.08 ล้านบาท รายได้กลุ่มผลิตภัณฑ์ด้วยครัว 2.56 ล้านบาท รายได้ผลิตภัณฑ์แม่บ้านและทำความสะอาดพื้นจำนวน 9.8 แสนบาท รายได้ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในครับเรือนจำนวน 2.27 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกลุ่มลูกค้าธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท และกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร รวมถึงมีรายได้จากค่าเช่าและบริการเพิ่มขึ้นจำนวน 5.15 ล้านบาท หรือ 10.33% เป็นการเพิ่มขึ้นรายได้ค่าเช่าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านครัว 7.17 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากบริษัทในเครือมีการให้เช่าเครื่องล้างจานเพิ่มขึ้นจากธุรกิจร้านอาหาร