การเปิดโครงการใหม่ในปีนี้ AP จะเดินหน้าเพิ่มมาร์เก็ตแชร์ในตลาด Super Luxury ระดับราคา 100 ล้านบาท ด้วยการยกระดับแบรนด์ THE PALAZZO ขึ้นมา จากเดิมที่ราคาขายอยู่ที่ 50-60 ล้านบาท โดยจะพัฒนาให้เป็นคฤหาสน์หรูในบริบทใหม่มากกว่าที่อยู่อาศัยแต่จะเป็นอาณาจักรที่เลือกเองได้ ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มากกว่า 1,000 ตารางเมตร ใน 2 ทำเล คือ กรุงเทพกรีฑา และปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นโครงการระดับราคา 100 ล้านบาทเป็นครั้งแรก เนื่องจากบริษัทมองเห็นโอกาสทางการตลาดในการขยายฐานลูกค้าใหม่และเจาะกลุ่มกำลังซื้อสูง
ส่วนโครงการทาวน์โฮม จะเน้นไปที่กลุ่มระดับราคาสูงกว่า 3 ล้านบาท ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพอยู่ในแง่ของกำลังซื้อ และความสามารถในการกู้ดี หลังจากปัจจุบันตลาดราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาทเผชิญกับปัญหาการปฏิเสธสินเชื่อที่สูง หลังจากหนี้สินครัวเรือนอยู่ในระดับสูง และรายได้ยังไม่ฟื้นกลับมาอย่างเต็มที่ และสถาบันการเงินทำให้การขอสินเชื่อยากขึ้น ซึ่งโครงการในระดับต่ำกว่า 3 ล้านบาท ปัจจุบันมีการขายประมาณ 3 รอบ ทำให้บริษัทมีการเปิดโครงการให้สอดคล้องกับภาวะในปีจจุบัน
ด้านโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ 6 โครงการที่จะเปิดตัวในปีนี้ จะเข้ามาเติมพอร์ตของบริษัท หลังจากที่สินค้าคอนโดมิเนียมของ AP ลดลงไปมากในช่วงที่ผ่านมา ประกอบกับ ทิศทางของตลาดคอนโดมิเนียมเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวกลับมาในช่วงปีก่อนต่อเนื่องมาในต้นปีนี้ จากนักลงทุน และชาวต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อคอนโดมิเนียมมากขึ้น ซึ่งในช่วงต้นปีที่ผ่านมามียอดจองเฉลี่ยอยู่ที่ 200 ล้านบาท/สัปดาห์ ทำให้ในปีนี้บริษัทมีการเปิดคอนโดมิเนียมเพิ่มขึ้น
ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) อยู่ที่ 3.71 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็น Backlog คอนโดมิเนียม 2.12 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยโอนไปไปจนถึงปี 70 โดยปีนี้จะมีการโอนคอนโดมิเนียม 3 โครงการที่สร้างเสร็จใหม่กว่า 1.15 หมื่นล้านบาท ได้แก่ โครงการ LIFE พหลฯ-ลาดพร้าว, LIFE พระราม 4-อโศก และ ASPIRE รัชโยธิน ส่วน Backlog โครงการแนวราบ อยู่ที่ 1.59 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ทั้งหมดในปี 67 และบริษัทได้วางงบซื้อที่ดินในปีนี้ไว้ที่ 1.7 หมื่นล้านบาท