"ในไตรมาส 4/67 จะเพิ่มอีก 1 ไลน์ผลิต ซึ่งคาดว่าใช้งบลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท ลงทุนเฉพาะส่วนการบรรจุผลิตภัณฑ์ส่วนของ Warehouse ไม่ต้องลงทุนเพิ่มแล้ว โดยการขยายไลน์การผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มมากขึ้น หลังจากเมื่อปี 66 ยอดขายทะลักในช่วงหน้าร้อนจนผลิตสินค้าไม่ทัน" นายตัน กล่าว
นอกจากการเพิ่มไลน์การผลิตแล้ว บริษัทใช้กลยุทธ์จ้างผลิตสินค้า (OEM) ระหว่างรอการขยายไลน์การผลิตเสร็จ และอยู่ในระหว่างการติดต่ออีก 1 โรงงาน เพื่อผลิตไลน์สินค้าที่ราคาสูงและปริมาณไม่สูงมาก เนื่องจากเครื่องจักรที่บริษัทใช้ในปัจจุบันเป็น Hi-Speed ที่ต้องผลิตด้วยปริมาณมากเพื่อต้นทุนที่ต่ำลง ดังนั้นในสินค้าที่มีการผลิตน้อยจะจ้างโรงงานอื่นผลิตสินค้าเพื่อทำให้กำไรปีนี้เพิ่มมากขึ้น
ขณะที่ปี 2567 ปริมาณขายเครื่องดื่มชาพร้อมดื่มในตลาดคาดจะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักต่อเนื่องจากปีที่ 66 ที่มีมูลค่า 16,200 ล้านบาท โดยเติบโต 17.45% จากปี 65 จากอากาศที่ร้อนขึ้น ซึ่งเป็นกลุ่มที่เติบโตสูงที่สุดในกลุ่ม Non-alcohol ซึ่งบริษัทมีสัดส่วนปริมาณขายเครื่องดื่มชาพร้อมดื่มที่ 27% ขณะที่มูลค่าตลาดเครื่องดื่มทั้งหมดในประเทศอยู่ที่ประมาณ 200,000 ล้านบาท
"กำลังซื้อที่ลดลง หรือภาวะเศรษฐกิจไม่กระทบกับการดำเนินงาน จริงๆแล้วเวลามีวิกฤต อิชิตันยังเติบโตต่อเนื่อง เพราะเป็นสินค้าที่เข้าถึงชุมชน ราคาไม่แพง" นายตันกล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานงวดปี 2566 กวาดรายได้ 8,050 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% จากปีก่อนที่มีรายได้ 6,340 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิเกินเป้าหมาย โดยมีกำไรสุทธิ 1,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 71% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 642 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงอยู่ที่ 23.4% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.7%
ความสำเร็จในปีที่ผ่านมาจากสินค้าในเครืออิชิตันที่เติบโตในทุกเซกเมนท์ โดยเฉพาะ "อิชิตัน กรีนที ขวดปากกว้าง" 500 มล. ที่ยอดขายเติบโต 40.33% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่สินค้ากลุ่ม Non-Tea อาทิ "น้ำด่าง อิชิตัน" สามารถขยายฐานลูกค้าได้มากขึ้นจากการทำกิจกรรม On Ground ทั่วประเทศตลอดปี และการสื่อสารคุณประโยชน์ที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารักสุขภาพจนเป็นแฟนประจำซื้อติดบ้านเพื่อดื่มทุกวัน ทำให้ยอดขายเติบโตมาก ถึง 77.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ด้าน "ตันซันซู" น้ำอัดลมสไตล์เกาหลี ยอดขายกำลังไต่ระดับขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุด เปิดตัวรสชาติใหม่ "ตันซันซู ยัมมี่เลิฟโซดา" รสสตรอว์เบอร์รี่แตงโม หอม หวาน ซ่าส์ แต่น้ำตาล 0% จากไอเดียเครื่องดื่มคลายร้อนสุดฮิตของประเทศเกาหลี "ซูบักฮวาแซ" พร้อมครีเอทฉลากมากถึง 6 แบบเอาใจวัยรุ่น Gen Z รับเทศกาลวาเลนไทน์ที่ผ่านมา สร้างแบรนด์ไดนามิค ด้วยความสนุกและสร้างสรรค์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เตรียมผลักดันให้ขึ้นแท่นเป็นสินค้ากลุ่ม Star ในอนาคต
และในปี 2567 นี้ ควบคู่กับการสร้างสรรค์สังคมที่ดี ICHI จึงได้ประกาศภารกิจใหม่ ด้วยการกำหนดแผนการมุ่งไปสู่องค์กรที่มีการผลิตแบบความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2593 โดย อิชิตัน กรีน แฟคทอรี ที่ให้ความสำคัญกับการผลิตอย่างรับผิดชอบ ปัจจุบันสินค้าทุกขวดของอิชิตัน สามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกลงได้ถึง 28.5% (เมื่อเทียบกับการผลิตแบบดั้งเดิม) เทียบเท่ากับช่วยลดปริมาณการใช้พลาสติกได้ถึง 7,000 ตัน/ปี และภายในปีนี้กำลังเร่งแผนพัฒนาขวดบรรจุภัณฑ์เป็น Eco Packaging และจะมีการนำ rPET (Recycled Plastic) ที่พร้อมสำหรับนำกลับเข้าสู่ Circular Economy ไม่น้อยกว่า 30% เข้าไปทดแทนพลาสติกใหม่ในการผลิตผลิตภัณฑ์ อิชิตัน กรีนที 500 มล. ช่วยลดปริมาณขยะซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจก
ล่าสุด ได้ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร, สำนักงานเขตคลองเตย, การทางพิเศษแห่งประเทศไทย ปรับปรุงพื้นที่ในเขตทางพิเศษเฉลิมมหานคร บริเวณซอยสุขุมวิท 50 เขตคลองเตย เป็นสวนสาธารณะ "สวน 50 สุข" ทำให้พื้นที่ไม่ได้ใช้งานเกิดมีชีวิตชีวา มีคุณค่า และสร้างความเชื่อมโยงให้กับคนในชุมชน เพิ่มพื้นที่สีเขียว และมีส่วนช่วยบรรเทาสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 จากแนวคิดโครงการปลูกต้นไม้ล้านต้น และนโยบายสวน 15 นาที ของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ซึ่งภายใน "สวน 50 สุข" อิชิตันได้ร่วมมือกับ บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) จัดทำระบบบริหารจัดการขยะแบบ Closed Loop ส่งเสริมให้ชุมชนเห็นประโยชน์ของการหมุนเวียนทรัพยากร ผ่านการมีส่วนร่วมในการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธี เพื่อนำกลับเข้าสู่ Circular Economy หมุนเวียนนำขยะกลับมาสร้างคุณค่าใหม่ เพราะอิชิตันเชื่อว่าแท้จริงแล้วโลกนี้ไม่มีขยะ ถ้าหากทุกคนบริโภคอย่างรับผิดชอบ ร่วมมือกันแยกขยะแล้วนำกลับเข้าสู่กระบวนการผลิตซ้ำ เพื่อเป็นการดูแลสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน