น.ส.วิไลวรรณ กาญจนกันติ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบริหารการเงิน บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายน้ำมันปี 67 เติบโต 3-4% จากปีก่อนอยู่ที่ 27,642 ล้านลิตร เป็นไปตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) ที่คาดว่าจะเติบโต 2.2-3.2% ส่วนการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ว่าจะเป็น กัมพูชา เวียดนาม ฟิลิปปินส์ ก็จะเป็นส่วนที่เข้ามาเสริมการเติบโตของวอลุ่มการขายน้ำมัน
ทั้งนี้จากการประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวปี 67 ที่จะเติบโตแตะ 35 ล้านคน จากปีก่อนอยู่ราว 28 ล้านคน คาดว่าจะส่งผลดีต่อ OR โดยเฉพาะในส่วนของความต้องการน้ำมันท่าอากาศยานที่เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่เงินเฟ้อของประเทศไทยปรับตัวลงมาอยู่ในกรอบ คาดจะส่งต่ออำนาจการใช้จ่ายของประชาชนดีขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจ Lifestyle
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ยังต้องระวังในปีนี้ คือ เงินเฟ้อที่ยังสูงในประเทศฝั่งอเมริกา หรือการใช้นโยบายการเงินที่เข้มข้น ก็จะมีผลต่อดีมานด์ของวอลุ่มน้ำมัน ที่จะส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบ, Geopolitics&Risks on Energy Price, การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน รวมถึงเรื่องของสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง (Climate Change) หรือภัยแล้ง ที่จะส่งผลให้สินค้าเกษตรที่ราคาแพงขึ้น เป็นต้น
ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบปีนี้คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 78-81 เหรียญต่อบาร์เรล บนอัตราแลกเปลี่ยนที่ 34-35 บาทต่อดอลลาร์
ด้านงบลงทุนปีนี้ ยังคงไว้ที่ 23,186.4 ล้านบาท ประกอบด้วย กลุ่มธุรกิจ Lifestyle 10,144.4 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Mobility 8,823.6 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจ Innovation & New Business 2,126.2 ล้านบาท และกลุ่มธุรกิจ Global 2,091.2 ล้านบาท
ในปี 66 OR มีสถานีบริการน้ำมัน (PTT Stations) ทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมอยู่ที่ 2,652 แห่ง แบ่งเป็นในประเทศ 2,253 แห่ง และต่างประเทศ 399 แห่ง ส่วนสถานีบริการ EV (EV Stations Pluz) มีจำนวน 859 แห่ง หรือคิดเป็น 1,618 DC Connectors โดยปี 67 มีแผนขยายเพิ่มอีก 550 แห่ง บนพื้นที่ PTT Stations เป็นหลัก และได้วางเป้าหมายเพิ่มหัวชาร์จ (DC Fast charge) เป็นประมาณ 7,000 หัวชาร์จในปี 73, ร้าน Cafe Amazon มีจำนวนรวมทั้งในและต่างประเทศ 4,552 สาขา เป็นในไทย 4,159 สาขา และต่างประเทศ 393 สาขา
น.ส.วิไลวรรณ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจที่น่าสนใจจำนวนหลายดีล โดยคาดว่าเร็วๆนี้ จะสามารถปิดดีลลงทุนในธุรกิจอาหารได้