IVL ลบ 5.86% มาที่ 22.50 บาท ลดลง 1.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 575.17 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.18 น. จากราคาเปิด 22.40 บาท ราคาสูงสุด 22.80 บาท ราคาต่ำสุด 22.10 บาท
บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ (IVL) รายงานขาดทุนสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 12,248 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น YoY และพลิกจากกำไรสุทธิในไตรมาส 3/66 หากไม่รวมรายการพิเศษ ขาดทุนหลักจะอยู่ที่ 2,555 ล้านบาท พลิกกลับจากกำไรหลักในไตรมาส 4/65 และขาดทุนเพิ่มขึ้น QoQ ผลประกอบการต่ากว่าที่เราคาดอย่างมาก โดยเราคาดขาดทุนสุทธิ 400 ล้านบาท (และตลาดคาดกำไรสุทธิที่ 2 พันล้านบาท) เนื่องจากอัตรากำไรต่ำกว่าคาด, ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารสูงกว่าคาด,และขาดทุนพิเศษมากกว่าคาด
IVL ประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับไตรมาส 4/66 ที่ 0.175 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็นอัตราตอบแทนจากเงินปันผลที่ 0.7% (จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 3 พ.ค. และจ่ายปันผลในวันที่ 23 พ.ค.)
ผลขาดทุนพิเศษสุทธิส่วนใหญ่เกิดจากการด้อยค่าของสินทรัพย์คอร์ปัสคริสตีและขาดทุนจากสินค้าคงคลังและผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้เกิดขาดทุนสุทธิจำนวนมาก จากมุมมองด้านการดำเนินงาน ผลการดำเนินงานหลักอ่อนตัวลงเนื่องจาก 1.กำไรจากทุกธุรกิจที่ลดลงโดยกำไรจากธุรกิจ PET ลดลง QoQ, ธุรกิจIntegrated Oxide & Derivatives (IOD) ลดลง QoQ, และธุรกิจไฟเบอร์ลดลง QoQ (ปริมาณขายที่ลดลงตามปัจจัยฤดูกาลและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่ลดลง) 2. ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้นโดยอัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่11.7%จาก9.9%ในไตรมาส4/65และ 10.6% ในไตรมาส 3/66 ,3. ดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้น YoY, และ 4. รายได้อื่นๆที่ลดลง(YoY และQoQ)
โดยสรุปปริมาณขายของ IVL ในไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 3.5 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 5% YoY แต่ลดลง 3% QoQ) และ core EBITDA/ตันเฉลี่ยอยู่ที่ 74 เหรียญสหรัฐ(ลดลง 11% YoY และ 17% QoQ)
คาดว่ากำไรหลักไตรมาส 1/67 ของIVL จะลดลง YoY ซึ่งถูกกดดันโดยส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่ลดลง แต่ผลการดำเนินงานหลักมีแนวโน้มจะพลิกกลับ QoQ เป็นกำไร หนุนโดยปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นและส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากอุปสงค์ในวงกว้างที่ปรับตัวดีขึ้นและช่วงไฮซีซั่นของ PET และเรายังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 67 ดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลงที่ 12,479 ล้านบาท
ผลประกอบการไตรมาส 4/66 ที่น่าผิดหวังอาจเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นนอกจากนี้เนื่องจากกำไรหลักในไตรมาส 1/67 มีแนวโน้มไม่น่าตื่นเต้น เราจึงไม่เห็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นที่ชัดเจนในระยะสั้นอย่างไรก็ตามมูลค่าหุ้นปัจจุบันที่อยู่ในระดับต่ำโดยซื้อขายที่PBV ปี 2567 เพียง 0.6 เท่า(ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว 1.8 เท่า อยู่ 1.5 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน) น่าจะช่วยจำกัดความเสี่ยงขาลงของราคาหุ้นได้บางส่วน
บล.ทรีนีตี้ ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คงคำแนะนำ ถือ และราคาเป้าหมาย ที่ 27 บาท อิง Avg -1.5SD PBV ที่ 0.9 เท่า ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับ -2SD PBV เชื่อว่าสะท้อนเศรษฐกิจที่ชะลอตัวไประดับหนึ่งแล้ว แต่แนวโน้มยังไม่ฟื้นตัวจนไปถึงครึ่งปีหลังของปี 67 (2H24)
IVL ผลประกอบการไตรมาส 4/66 พลิกเป็นขาดทุน -1.2 หมื่นล้านบาท ผลจากขาดทุนด้วยค่าสินทรัพย์ Corpus Christi ราว 1 หมื่นล้านบาท และขาดทุน Stock 1.8 พันล้านบาท ถ้าไม่นับรวมรายการดังกล่าว Core Operation ยังเป็นขาดทุนราว 1.5 พันล้านบาท มาจากทุกๆ ธุรกิจที่ลดลง
1. ปริมาณขายอยู่ที่ 3.5 ล้านตัน +5% YoY, -3% QoQ ลดลง QoQ จาก Seasonal
2. ธุรกิจ Combined PET มี EBITDA ที่ 129 ล้านเหรียญฯ -5% YoY, -7% QoQ ซึ่งเป็นผลจากีการปิดปรับปรุงโรงงาน PTA ที่แคนาดา และยังคงได้รับแรงกดดันจาก Supply จากประเทศจีนที่ยังสูง
3. ธุรกิจ IOD มี EBITDA ที่ 100 ล้านเหรียญฯ +7% YoY, -16% QoQ เพิ่มขึ้น YoY จากปัญหาระดับสินค้าคงคลังในตลาด Crop Solution ในทวีปอเมริกาเหนือ ในขณะที่ปรับดีขึ้น ในขณะที่ลดลง QoQ จาก MTBE ที่ปรับลดลงตาความต้องการน้ำมันเบนซินที่ลดลงในช่วงหน้าหนาว
4. ธุรกิจ Fiber มี EBITDA ที่ 6 ล้านบาท +178% YoY, -87% QoQ ยังคงได้รับผลกระทบจาก Demand ที่ชะลอตัวตามเศรษฐกิจโดยรวม
แนวโน้มผลการดำเนินงานน่าจะยังอยู่ในระดับต่ำไปจนถึงอย่างน้อย H2/67 ด้วยปัญหาการระบายสินค้าคงเหลือที่ยังยืดเยื้อ Supply ใหม่ยังเพิ่มขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรของบริษัทลดลง อย่างไรก็ดี ผู้บริหารเล็งเห็นถึงปัญหาดังกล่าว พยายามลดค่าใช้จ่ายการลงทุนต่างๆ รวมถึงการบริหารสภาพคล่องเพื่อให้ผ่านพ้น Down cycle นี้ไป
ทั้งนี้ เราคงประมาณการกำไรปี 67 ที่ 5.6 พันล้านบาท คงคำแนะนำ "ถือ" และราคาเป้าหมาย ที่ 27 บาท อิง Avg -1.5SD PBV ที่ 0.9 เท่า ปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายที่ระดับ -2SD PBV เชื่อว่าสะท้อนเศรษฐกิจที่ชะลอตัวไประดับหนึ่งแล้ว แต่แนวโน้มยังไม่ฟื้นตัวจนไปถึง H2/67