นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายการเงินและบัญชี บมจ.พริมา มารีน (PRM) กล่าวว่าในปี 2567 บริษัทยังคงมุ่งขยายธุรกิจในกลุ่มเรือปิโตรเคมีและธุรกิจออฟชอร์ซัพพอร์ตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทได้รับมอบ Medium Speed Crew Boat ต่อใหม่ไปแล้ว 1 ลำในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเตรียมรับเพิ่มอีก 1 ลำในเดือนมีนาคม 2567 นี้ ซึ่งทั้ง 2 ลำ มีลูกค้ารองรับทั้งหมดแล้ว
Medium Speed Crew Boat ทั้ง 2 ลำนี้มีเทคโนโลยี Hybrid ที่ช่วยลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสู่ชั้นบรรยากาศ นอกจากเสริมทัพกองเรือธุรกิจออฟชอร์ซัพพอร์ตแล้ว ยังเตรียมลงทุนกองเรือเพิ่มอีก 3-4 ลำ สนับสนุนผลประกอบการของปี 2567 เติบโตตามเป้าที่กำหนดไว้
"ธุรกิจปี 2567 ที่มีทิศทางการเติบโตต่อเนื่องจากปี 2566 จากความต้องการใช้พลังงานเชื้อเพลิงภายในประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น หลังเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวและการท่องเที่ยวเติบโต รวมถึงการขยายกองเรือต่อเนื่อง นับเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยหนุนให้บริษัทเติบโตแข็งแกร่งและมั่นคงในอนาคต"
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2566 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566) บริษัทฯมีรายได้จากการให้บริการอยู่ที่ 8,086.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.82% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 7,715.40 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มขึ้น มีปัจจัยหนุนมาจากกลุ่มธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ ที่สามารถให้บริการเรือ VLCC เต็มอัตราการใช้เรือครบทั้ง 3 ลำตลอดทั้งปี ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศสามารถชดเชยการชะลอตัวลงของธุรกิจขนส่งและจัดเก็บน้ำมันดิบ หรือ FSU เนื่องจากสภาวะ Backwardation ของตลาดซื้อขายน้ำมันล่วงหน้าได้เป็นอย่างดี
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังสามารถทำกำไรจากการขายเรือ FSU ที่ครบอายุการให้บริการในช่วงที่ราคาเหล็กในตลาดโลกยังคงอยู่ในระดับสูงได้ถึง 312.20 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,214.00 ล้านบาท