EGCO มั่นใจปีนี้พลิกกำไรไร้ผลกระทบ Yunlin วางงบ 3 หมื่นลบ.อัพเพิ่ม 1,000 MW จ่อปิดดีล M&A

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 29, 2024 13:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) เปิดเผยว่า บริษัทคาดปี 67 จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรสุทธิ จากปี 66 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 8,384 ล้านบาท เนื่องจากปีนี้จะไม่มีรับผลกระทบจากการปรับแผนการก่อสร้าง ปรับโครงสร้างทางการเงิน และการถือหุ้นของโครงการ Yunlin แล้ว

ในช่วงปี 63-64 โครงการ Yunlin เผชิญสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นปัจจัยที่อยู่เหนือการควบคุม ทำให้ไต้หวันมีมาตรการการเข้าออกประเทศที่เข้มงวด และปิดประเทศบางช่วง กระทบต่อการเดินทางและการเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ก่อสร้างขนาดใหญ่ อีกทั้งสภาพภูมิอากาศแบบมรสุมในช่องแคบไต้หวัน ทำให้มีระยะเวลาทำงานจำกัด จากสาเหตุทั้งหมดนี้ทำให้มีต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มขึ้น

EGCO ได้พยายามเร่งรัดติดตามความก้าวหน้าของโครงการอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด ดังนั้น ในปี 66 โครงการจึงมีการปรับแผนการก่อสร้าง ปรับโครงสร้างทางการเงิน และการถือหุ้น เพื่อให้โครงการสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ส่งผลให้ EGCO ต้องรับรู้ผลกระทบจากการปรับโครงสร้างทางการเงินและการถือหุ้น รวมถึงการด้อยค่าของสินทรัพย์ ซึ่งเป็นรายการทางบัญชีที่ไม่ได้กระทบกระแสเงินสด แต่ส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุน

ขณะที่ปี 66 บริษัทได้มีการวางแผนการดำเนินงานใหม่ ปิดความเสี่ยงในกรณีต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมในการก่อสร้างโครงการ Yunlin ในปีนี้ โดยสั่งเรือเพิ่มอีก 2 ลำ ได้แก่ เรือ DLS-4200 ซึ่งมีประสบการณ์ติดตั้ง Monopile ในปีที่แล้วและมีผลงานดี , เรือลำที่ 2 Blue Wind เป็นเรือแบบ Jack UP ทำงานในช่วงคลื่นลมค่อนข้างแรงได้ดีกว่าลำเดิม มีประสบการณ์การติดตั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งในพื้นที่ใกล้เคียงทั้ง ญี่ปุ่นและไต้หวัน

ปัจจุบัน โครงการ Yunlin ได้ติดตั้งเสากังหัน (Monopile) แล้ว 45 ต้น ซึ่งเป็นกังหันลม (Wind Turbine Generator) ที่จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้วทั้งสิ้น 33 ต้น คิดเป็นกำลังผลิตรวม 264 เมกะวัตต์ อัตราการผลิตไฟฟ้า (Capacity Factor) เฉลี่ยของโครงการสูงกว่า 40% โครงการมีความพร้อมแล้วทุกด้านในการผลักดันและเดินหน้าการก่อสร้างให้เป็นไปตามแผนงาน กำหนดแล้วเสร็จครบ 80 ต้น กำลังผลิตรวม 640 เมกะวัตต์ ภายในปี 67

นอกจากนั้น ในปีนี้ บริษัทจะรับรู้รายได้เต็มปีโครงการที่เข้าลงทุนไว้เมื่อปี 66 ได้แก่ โรงไฟฟ้า RISEC กลุ่มโรงไฟฟ้า Compass, บริษัทโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค CDI รวมถึงรับรู้รายได้เพิ่มจากการ COD โรงไฟฟ้า EGCO Cogeneration ส่วนขยาย กำลังผลิตสุทธิ 74 เมกะวัตต์ จ.ระยอง เมื่อวันที่ 28 ม.ค.67, การทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบโครงการ Yunlin และการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบและการขายโครงการพลังงานหมุนเวียนภายใต้ APEX คาดว่าจะปิดดีลได้ในปีนี้

ตลอดจนผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า Paju ES ที่มีแนวโน้มดีอย่างต่อเนื่อง, ปริมาณความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในสหรัฐอเมริกาจากสภาพเศรษฐกิจที่เติบโตขึ้น และปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว ซึ่งจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน

พร้อมกันนี้ นอกเหนือจากการขายโครงการพลังงานหมุนเวียนภายใต้ APEX แล้ว ยังมีแผนลดสัดส่วนการถือหุ้นในโรงไฟฟ้าที่มีการ Operate อยู่แล้วที่ EGCO ถือหุ้นในสัดส่วนสูง เพื่อขายหุ้นออกไป หรือทำการแลกหุ้นระหว่างกัน (Share swap) อย่างไรก็ตา มรูปแบบดังกล่าวยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ทำให้ยังไม่สามารถรายละเอียดเพิ่มเติมได้

บริษัทยังเตรียมงบลงทุนในปี 67 ไว้ที่ 30,000 ล้านบาท มุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องภายใต้กลยุทธ์ "4S" ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นอีก 1,000 เมกะวัตต์ มุ่งเน้นการลงทุนและเดินเครื่องโรงไฟฟ้าคุณภาพสูงที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง สนับสนุนเป้าหมายการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาด รวมทั้งการขยาย Portfolio พลังงานหมุนเวียน โดยมีความได้เปรียบจากการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งใน 8 ประเทศที่มีฐานทางธุรกิจอยู่ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหรัฐอเมริกา

ในขณะเดียวกัน EGCO จะเร่งรัดบริหารโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามแผนงาน และบริหาร Portfolio และโรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในปัจจุบันกว่า 40 แห่ง รวมทั้งธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

สำหรับโอกาสการลงทุนใหม่ในอนาคตอันใกล้ EGCO คาดว่าจะสามารถปิดดีลโครงการใหม่ในรูปแบบ M&A อีก 2-3 โครงการ ภายในปี 67 ในขณะเดียวกันเตรียมการต่อสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวของโรงไฟฟ้า Quezon ในฟิลิปปินส์ ที่จะหมดสัญญาในเดือนพ.ค.68 โดยคาดว่าจะทราบผลการเจรจาที่ชัดเจนเร็ว ๆ นี้

บริษัทได้มีการขออนุมัติวงเงินการออกหุ้นกู้ไว้ 30,000 ล้านบาท ซึ่งมีอายุ 2 ปี (66-67) โดยในปี 66 ออกไปแล้ว 1,500 ล้านบาท ในปีนี้ยังไม่แผนจะออกหุ้นกู้เพิ่มเติม เนื่องด้วยทิศทางดอกเบี้ยยังสูง และมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 28,862 ล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 1.31 เท่า ซึ่งอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตามหากดอกเบี้ยปรับตัวลงก็จะพิจารณาอีกครั้ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ