นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ดัชนีมีโอกาสรีบาวด์หลังจากวานนี้ลงไปค่อนข้างแรง และ Underperform ตลาดภูมิภาค สาเหตุจากปัจจัยชั่วคราว อาทิ MSCI Rebalance และหุ้น PTT ขึ้น XD กดดันตลาด
ขณะที่การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน (Core PCE) สอดคล้องกับคาดการณ์ของตลาด และตัวเลขผู้ยื่นขอรับสวัสดิการว่างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ความกังวลต่อการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) น่าจะลดลง หนุนดัชนีมีลุ้นรีบาวด์ อย่างไรก็ดี ระหว่างวันต้องติดตามการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของจีนว่าจะเป็นอย่างไร
รวมทั้งวันนี้นายเศรษฐกิจ ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะแถลงแผนพัฒนาการเป็นศูนย์กลางทางการบินและขนส่งภูมิภาค (Ignite Thailand Aviation Hub) ต้องติดตามรายละเอียด แต่เชื่อว่าจะเป็น Sentiment เชิงบวกให้กับ AOT และติดตามการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนวันสุดท้าย
กลยุทธ์ในการลงทุนวันนี้ แนะนำเลือกหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว อาทิ KBANK วานนี้ประกาศจ่ายปันผลสูงกว่าคาด ส่งผลให้ราคาหุ้นน่าจะตอบสนองเชิงบวกได้ในวันนี้ และ SPALI ปีนี้น่าจะเติบโตดีเมื่อเทียบกับกลุ่ม Vauation ค่อนข้างถูก Dividend Yield สูงประมาณ 6.4% รวมทั้งประเด็นเงินเฟ้อและดอกเบี้ยลดลง กลุ่มอสังหาฯ น่าจะได้ Sentiment เชิงบวกเข้ามา
พร้อมทั้งให้กรอบดัชนี แนวรับ 1,365 จุด และแนวต้าน 1,385 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (29 ก.พ.) ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 38,996.39 จุด เพิ่มขึ้น 47.37 จุด หรือ +0.12%, ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,096.27 จุด เพิ่มขึ้น 26.51 จุด หรือ +0.52% และดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,091.92 จุด เพิ่มขึ้น 144.18 จุด หรือ +0.90%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,390.89 จุด ลดลง 120.55 จุด หรือ -0.73% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,013.82 จุด ลดลง 1.35 จุด หรือ -0.04% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 39,254.69 จุด เพิ่มขึ้น 88.50 จุด หรือ +0.23%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (29 ก.พ.) ที่ 1,370.67 จุด ลดลง 11.38 จุด (-0.82%) มูลค่าซื้อขาย 73,542.55 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 4,355.99 ล้านบาท (28 ก.พ.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 28 เซนต์ หรือ 0.36% ปิดที่ 78.26 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (29 ก.พ.) อยู่ที่ 6.68 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 35.88 แข็งค่า หลังตัวเลข PCE สหรัฐออกมาตามคาด ตลาดรอปัจจัยใหม่
- ธปท. ชี้ "แบงก์ไร้สาขา" เนื้อหอม หลังมีผู้สนใจร่วมขอ "ไลเซนส์" เพียบ ตบเท้าเข้ามาหารือ "แบงก์ชาติ" เกิน 3 รายแล้ว ขณะที่หลักเกณฑ์ดำเนินธุรกิจคาดคลอดภายในเดือนมี.ค.67 ก่อนเปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการ ชี้ใช้เวลาพิจารณาผู้ยื่นสมัคร 9 เดือน ก่อนประกาศ "ผู้ได้ใบอนุญาต" กลางปี 68
- สนค.ชี้ตลาดค้าออนไลน์ไทยโตแรง ยึดเบอร์สองอาเซียน ปีหน้าคาดมูลค่าทะลุ 1.8 ล้านล้าน ลาซาด้า-ช้อปปี้ยึดหัวหาดทุกเจน แต่ TikTok ครองใจวัยรุ่นที่ชอบความบันเทิง ความสุข พร้อมแนะกลยุทธ์คนค้าขายออนไลน์ปรับตัวขายของตามอายุวัยชิงตลาด
- "เศรษฐา" ประกาศดึงลงทุนครั้งใหญ่รอบ 20 ปี ชดเชยทศวรรษที่สูญเสีย หวังไทยผงาดฮับโลจิสติกส์ คิกออฟแผนอัปเกรดสนามบินทั่วประเทศ ดันสุวรรณภูมิติดท็อป 5 ของโลก ยันเดินหน้าอีอีซี เร่งรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เร่งไฮสปีดเทรนด์ กทม.-หนองคายเชื่อมลาว-จีน "พรหมินทร์" มั่นใจหนุนเพื่อไทยเป็นรัฐบาลอีกรอบ ทอท.เร่งสางปัญหาสนามบินแออัด พร้อมทุ่มงบ 1.8 หมื่นล้าน ขยายเพิ่ม
- พร็อพเพอร์ตี้ ดีเอ็น เอ สำรวจ 10 บิ๊กอสังหาฯ "แสนสิริ" แชมป์ ผลประกอบการ กำไร-รายได้ปี 66 ตามด้วย เอพี ขณะที่ "สิงห์ เอสเตท" โชว์กวาดรายได้เฉียด 1.5 หมื่นล้านบาท
*หุ้นเด่นวันนี้
- CRC (กรุงศรี) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 44 บาท จากแนวโน้มที่ดีจากการประเมินของผู้บริหารมองไตรมาส 1/67 คาดว่า SSS โดยรวมน่าจะโตได้ในระดับเลขหลักเดียวต่ำๆ คาดว่าของประเทศไทยจะทรงตัว (เพราะแนวโน้มการบริโภคยังแผ่วอยู่) ในขณะที่คาดว่าธุรกิจในอิตาลีจะอยู่ที่ระดับเลขตัวเดียวสูงๆ (จากการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง) และคาดว่าในเวียดนามจะอยู่ที่ระดับเลขตัวเดียวกลางๆ
- KBANK (กสิกรไทย) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 13 บาท ประกาศจ่ายปันผล 2H66 ที่ 6 บาท/หุ้นหรือคิดเป็น Dividend Yield 4.8% (ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 22 เม.ย.) มากกว่าคาดว่าจะจ่ายงวดนี้ +/-4.5 บาท/หุ้น ทำให้ปันผลทั้งปี 66 อยู่ที่ 6.5 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Dividend Payout Ratio ที่ 36% สูงสุดในรอบกว่า 10 ปี อาจทำให้ตลาดเชื่อว่าจะคงการจ่ายในระดับสูงต่อในปีนี้เนื่องจากฐานทุนที่แข็งแกร่งและยังส่งผลบวกต่อ ROE สูงขึ้น
- NETBAY (ไอร่า) แนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท คาดการณ์ผลประกอบการในช่วงปี 67 มีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากโอกาสทางธุรกิจที่มากขึ้นหลังเป็นพันธมิตรกับ DITTO ซึ่งจะส่งผลให้ Cross-Selling ได้ อีกทั้งยังสามารถรุกตลาดองค์กรท้องถิ่นคาดจะหนุนรายได้-กำไรปรับตัวขึ้นต่อเป็นจิตวิทยาเชิงบวกต่อราคาหุ้น