นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) เปิดเผยว่า ปี 67 จะเป็นปีแห่งการสร้างฐานของ New Growth จากนวัตกรรมสินค้า Health and Wellness ต่อยอดธุรกิจเดิมที่มีความแข็งแกร่ง ผ่านความร่วมมือพันธมิตรควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน (ESG) โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 10% จากปีก่อน และมีแผนออกผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่มีนวัตกรรมด้านสุขภาพ และความเป็นอยู่ที่ดี (Health and Wellness) สอดรับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่
ทั้งนี้ TACC ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner ไม่ว่าเป็นเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ในมุม All Cafe ทั้งร้าน 7-Eleven ในประเทศไทย ร้าน 7-Eleven ในประเทศกัมพูชา และในสปป.ลาว ที่คาดว่าจะช่วยผลักดันรายได้ของบริษัทฯเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้
ในส่วนของธุรกิจ License Businessในปี 2567 บริษัทฯ จะมีคาแรคเตอร์ตัวใหม่ ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบัน License Business ของบริษัทฯ มีทั้งคาแรคเตอร์ต่างประเทศ และคาแรคเตอร์ของไทย เช่น หมาจ๋า , Warbie Yama , Line Creators เป็นต้น หลังจากปีก่อนได้รับลิขสิทธิ์เป็นตัวแทนดูแลลิขสิทธิ์ และทำการตลาดในประเทศไทย สำหรับ "Bellygom" หมีสีชมพูสุดคิวท์ตัวแรกจากประเทศเกาหลีเป็นระยะเวลา 4 ปี
นายชัชชวี กล่าวอีก ในส่วนของ บริษัท เฮลธ์ อินสไปร์ด แพลนเนต จำกัด (HIP) ที่เป็นบริษัทย่อยนั้น ซึ่งมีแบรนด์ Bloss Natura ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม และอาหารเสริมชั้นนำที่ผลิตจากประเทศเกาหลี โดยคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2567 เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้นจากปีก่อน และมีแผนเปิดตัวสินค้าใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขาย รับกระแส Health and Wellness ซึ่งถือเป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังมาแรงในขณะนี้
ภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 2566 บริษัทฯมีรายได้รวม 1,715.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.67% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,536.37 ล้านบาท และปี 2566 มีกำไรสุทธิ 221.69 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการพัฒนาสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดร่วมกับ 7-Eleven ในฐานะ Key Strategic Partner และขยายฐานลูกค้าใหม่ทั้งในส่วนของ B2B และ B2C รองรับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
"ในปี 2566 ยอดขายเครื่องดื่มเย็นในโถกด (Jet Spray) และเครื่องดื่ม Non-Coffee Menu ในมุม All Cafe ของร้าน 7-Eleven ยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ตามการขยายสาขาทั้งในและต่างประเทศ หลังเข้าไปรุกขยายสาขาในประเทศกัมพูชา และสปป.ลาว ซึ่งเราได้มีการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ และทำแผนการตลาดร่วมกัน เพื่อกระตุ้นยอดขาย"