นายฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สแกน อินเตอร์ (SCN) เปิดเผยว่าบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโต 10-20% จากปีก่อน โดยมาจากการเติบโตของทุกกลุ่มธุรกิจ รวมทั้งปีนี้บริษัทเตรียมรุกธุรกิจ EV Charger และ Solar home พร้อมกันนั้นยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตไฮโดรเจนหรือบลูไฮโดรเจนเพื่อเป็นเชื้อเพลิงและเป็นก๊าซพิเศษให้แก่บางอุตสาหกรรม ซึ่งจะหนุนการเติบโตให้กับบริษัทได้ในอนาคต
โดยการศึกษาการผลิตไฮโดรเจน บริษัทได้ลงทุนจ้างที่ปรึกษาระดับโลกประมาณ 60 ล้านบาท จากงบลงทุนไฮโดรเจนรวมประมาณ 300 ล้านบาท ขณะที่การทำโครงการ Private PPA ซึ่งเป็นธุรกิจใหม่ของบริษัท จะนำร่องติดตั้งสถานีชาร์จในพื้นที่หอพัก คอนโดมีเนียม และโรงแรม ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเข้าเจรจากับคู่ค้าประมาณ 20 ราย คาดจะเริ่มเข้าติดตั้งได้ช่วงปลายไตรมาส 1/67 โดยบริษัทตั้งงบลงทุนสำหรับโครงการดังกล่าว 20 ล้านบาท และคาดว่าจะให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) อยู่ที่ราว 10%
ธุรกิจ EV Charger และ Solar home จะช่วยหนุนให้สัดส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ปี 67 ธุรกิจขนส่งก๊าซธรรมชาติ จะเติบโตขึ้น 20% หลังชนะประมูลงานขนส่ง ปตท. ทำให้ขึ้นแท่นผู้ขนส่งก๊าซธรรมชาติ อันดับ 1 ของประเทศ โดยมีปริมาณขนส่งรวมอยู่ที่ 1 ล้านกิโลกรัมต่อวัน ทั้งใน 6 พื้นที่ ซึ่งในปีนี้จะรับรู้รายได้เต็มปี
ขณะที่ผลการดำเนินงานประจำปี 2566 บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการขายและบริการอยู่ที่ 1,878 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34% หรือเท่าตัว เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยสามารถทำกำไรเติบโตได้สุทธิ 167 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งนับเป็นกำไรสุทธิแบบออร์แกนิค อยู่ที่ 132 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมา 28% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยไม่รวมกำไร one - time ที่เกิดจากขายเงินลงทุนรวมถึงการตัดจำหน่ายโครงการที่เป็น Non-perform ของบริษัท ซึ่งเป็นการเติบโตแบบ Organic Growth หรือการเติบโตจากความแข็งแกร่งขององค์กร
ปัจจัยการเติบโตเกิดจาก 1) การเติบโตของผลการดำเนินงานในหน่วยธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับผลิตภัณฑ์ก๊าซธรรมชาติ ซึ่งได้อานิสงส์บวกจากปริมาณความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติและราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น 2) บริษัทเริ่มรับรู้รายได้สัญญาจ้างขนส่งจากการชนะประมูลงานขนส่ง ปตท. ตั้งแต่ไตรมาส 2/66 เป็นต้นไป 3) รับรู้รายได้จากงานจ้างเหมาก่อสร้างอาทิ เช่น งานรับเหมาก่อสร้างปั๊มบางจาก และ 4) ธุรกิจพลังงานหมุนเวียน SAP ด้วยผลการดำเนินงานก้าวกระโดดอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งเตรียมความพร้อมเข้าตลาดหลักทรัพย์ปี 2567