ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสเตติก คอนเนค (TRP) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการหาพันธมิตรใหม่เพื่อต่อยอดธุรกิจแบบครบวงจร โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีนี้ ซึ่งมีความสำคัญช่วยหนุนผลประกอบการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 67 บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโต 15-25% จากปี 66 ด้วยกลยุทธ์หลัก การให้บริการศัลยกรรมความงามเฉพาะบนใบหน้าเพื่อให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้ารุกการบริการผลิตภัณฑ์ดาวเด่น อย่าง TRP Programs นวัตกรรมเฉพาะของ TRP ที่ช่วยยกกระชับและคงความอ่อนเยาว์ของใบหน้าอย่างเห็นผลชัดเจนและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมไปถึง Fat Stem Cell ซึ่งช่วยลดเรือนริ้วรอยและเพิ่มความกระจ่างใสของใบหน้า
รวมถึง บริษัทมีแผนจะขยายฐานลูกค้าเดิมและใหม่ในกลุ่ม CLM (กัมพูชา เมียนมา สปป.ลาว) และอินโดนีเซีย ด้วยการสร้างช่องทางการสื่อสารเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น รวมทั้งการมองหา"เอเจนซี่" ในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทในอนาคต
"TRP ยกระดับจากธุรกิจคลินิก สู่โรงพยาบาลศัลยกรรมความงามเฉพาะใบหน้าแห่งแรกของประเทศไทย นับเป็นการสร้างความแข็งแรงแกร่งให้กับธุรกิจและยกระดับอุตสาหกรรมศัลยกรรมประเทศไทยสู่สากล เพื่อให้อุตสาหกรรมศัลยกรรมความงามไทยสร้างชื่อและสร้างรายได้เข้าสู่ประเทศในอนาคต" ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 192.56 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 27.20% โดยกำไรลดลงจาก 270 ล้านบาทในปี 65 ขณะที่มีรายได้ 707.83 ล้านบาท ลดลงจาก 853.64 ล้านบาท บริษัทชี้แจงว่าคาดว่าเกิดจากภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศที่ยังไม่แน่นอน รวมถึงช่วงปี 63-65 ประชาชนยังไม่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในต่างประเทศ จึงเลือกทำศัลยกรรมในช่วงวันหยุดยาว ในขณะที่ในปี 66 การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาเป็นปกติ ส่งผลให้ประชาชนบางส่วนเลือกที่จะท่องเที่ยวมากกว่าศัลยกรรม จึงมีผู้มาใช้บริการน้อยลง
ทั้งนี้ ในปี 66 ต้นทุนทางการเงินลดลง 32.26% เนื่องจากคืนเงินกู้ยืมทั้งหมด 118 ล้านบาทในไตรมาส 4/66