นายแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) ประกาศแผนธุรกิจปี 67 มุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งยังพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อเป็นการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โดยตั้งเป้าผลักดันรายได้โตไม่น้อยกว่า 30%
ในปีที่ผ่านมา NRF ได้เข้าซื้อซุปเปอร์มาร์เก็ต 2 แห่ง และศูนย์กระจายสินค้าอีก 1 แห่ง ผ่านบริษัทย่อย โดยใช้ชื่อว่า Bamboo ซึ่งมีรายได้รวมกว่า 30 ล้านปอนด์สเตอร์ลิง หรือ 1,300 ล้านบาท เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มธุรกิจ โดยมีแผนลงทุนร้านค้าปลีก-ค้าส่งในประเทศอังกฤษตั้งเป้า 12 สาขาเพื่อมุ่งสู่การเป็น Omni-Channel และในปี 67 นี้ NRF ยังคงเดินหน้าที่จะขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นแพลตฟอร์มซูเปอร์มาเก็ตเอเชียที่ใหญ่ที่สุดในลอนดอน พร้อมเตรียมจะนำ Bamboo Mart Limited เข้าระดมทุน IPO ในตลาด NASDAQ ในช่วงปลายปี
นายแดน กล่าวว่า Bamboo Mart โดยเป็นการขยายการลงทุน และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง พร้อมกับนำเสนอสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารสด อาหารแห้ง วัตถุดิบปรุงอาหาร ของใช้ในบ้าน และสินค้าเอเชียอื่น ๆ ให้กับผู้บริโภคชาวเอเชียที่อาศัยอยู่ในลอนดอนได้อย่างครบครัน ซึ่งจะนำโมเดลจากร้านค้าปัจจุบันที่ประสบความสำเร็จมาประยุกต์ใช้ อย่างร้านชุงลี (Chuang Lee Cash&Carry) โดยจะปรับขนาดที่เหมาะสมเพื่อเน้นการกระจายตามจุดยุทธศาสตร์การค้าสำคัญ การเข้าถึงลูกค้าที่มากขึ้น ซึ่งเชื่อมั่นว่าอาหารท้องถิ่นหรืออาหารชาติพันธุ์ โดยเฉพาะอาหารเอเชียมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ผนวกกับอัตราของกลุ่มประชาการชาวเอเชียที่มากขึ้นในลอนดอน แผนขยายสาขานี้จะทำให้ NRF สามารถขยายขีดความสามารถในการแข่งขันของอาหารเอเชียในตลาดโลก อีกนัยหนึ่งจะทำให้กลุ่มธุรกิจหลักของเราเติบโตขึ้น
และ เพื่อเป็นการเสริมความแกร่งในการแข่งขันให้ครอบคลุมการเป็นผู้นำ Omni Channel ทำให้ NRF ได้พัฒนา Mobile Application สำหรับใช้ในประเทศอังกฤษ NRF Platform แพลตฟอร์มเพื่อผู้ส่งออกไทยครอบคลุมในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยตรงและกว้างขวาง ส่งต่อประสบการณ์ระดับโลกจะทำให้ผู้บริโภคได้เห็นสินค้าเอเชียที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่อาหารไทย แต่ยังมีอาหารเอเชียอีกหลากหลายสัญชาติ เพื่อเป็นการชูศักยภาพและการเข้าถึงอาหารเอเชียที่แท้จริง ถือเป็นการเสริมศักยภาพการแข่งขันให้แก่สินค้าเอเชียในตลาดยุโรป
"การได้มาซึ่งข้อมูลที่จะสามารถพัฒนาสินค้าและบริการที่สอดคล้องตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค และต่อยอดแผนการตลาด ซึ่งจะช่วยผลักดันยอดขายให้แก่ผลิตภัณฑ์ของ NRF เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเราคาดว่าจะเห็นการเติบโตอย่างน้อย 30% ในปี 67 จากการขยายการค้าปลีกในสหราชอาณาจักรและการผลิตอาหารตามกลุ่มชาติพันธุ์"นายแดน กล่าว
นางสาววรชนาธิป จันทนู รองประธาน คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร และรองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวเสริมว่า อาหารไทยเป็นที่รู้จักและชื่นชอบไปทั่วโลก ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ วัตถุดิบที่สดใหม่ และกรรมวิธีการปรุงที่พิถีพิถัน อาหารไทยจึงกลายเป็นเสมือนตัวแทนของวัฒนธรรมไทยและเป็น Soft Power ที่สำคัญในการดึงดูดนักท่องเที่ยว ส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ และสร้างรายได้ให้กับประเทศ ธุรกิจอาหารไทยมีโอกาสเติบโตสูง เนื่องจากกระแสความนิยมอาหารไทยในต่างประเทศที่เพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอาหารไทยยังเผชิญความท้าทายหลายประการ เช่น การแข่งขันที่รุนแรง การเปลี่ยนแปลงของเทรนด์อาหาร และความท้าทายด้านแรงงาน ดังนั้นแล้วอาหารไทยมีศักยภาพสูงที่จะเป็น Soft Power ที่สำคัญของประเทศ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อขับเคลื่อนอาหารไทยสู่อนาคตได้อย่างยั่งยืน
จากการสำรวจตลาดโลก พบว่า ตลาดอาหารเอเชียมีการเติบโตไปในทิศทางที่ดีในตลาดยุโรป โดยเฉพาะในสหราชอาณาจักร ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำสินค้าเอเชีย ไม่ว่าจะร้านอาหารเอเชีย ผลิตภัณฑ์เอเชีย ผนวกกับอัตราการเพิ่มขึ้นของประชากรชาวเอเชียในประเทศอังกฤษ โดยในปีนี้ NRF ยังคงตอกย้ำศักยภาพการเติบโตที่แข็งแกร่งในส่วนปลายน้ำ
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา NRF ดำเนินธุรกิจอย่างครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำด้วยความใส่ใจ มุ่งเน้นสู่ความยั่งยืน ขยายช่องทางจำหน่าย NRF วางแผนขยายช่องทางจำหน่ายทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม ซึ่งในการลงทุนเข้าไปสู่ตลาดค้าปลีก-ส่ง จะส่งผลให้ Supply Chain ห่วงโซ่อุปทานของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่ง สอดรับกับการเสริมแกร่งกลุ่มธุรกิจด้านอุตสาหกรรมรีเทล นอกจากนี้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ NRF มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ เพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ NRF วางแผนลงทุนในต่างประเทศเพื่อขยายฐานการผลิตและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
ทั้งนี้ NRF ผู้ผลิตจัดหาและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร อาหารสำเร็จรูป เครื่องปรุงสำหรับประกอบอาหาร มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพ เรื่องรสชาติที่เรามุ่งมั่นพัฒนาเพื่อให้รสชาติดั้งเดิมที่สุด เพื่อชูความเป็นรสชาติไทยแท้ ภายใต้มาตรฐานสากล ซึ่งถือเป็นจุดเด่นสำคัญของแบรนด์ ที่ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ได้รับการชื่นชมและยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลก ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ปัจจุบัน NRF ส่งออกผลิตภัณฑ์ เพื่อวางจำหน่าย 30 ประเทศทั่วโลก และดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการปล่อยมลพิษ และสนับสนุนชุมชน มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน