PTTEP บวก 2.23% โบรกฯมองได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันสูง,โครงการ M9 ชัดขึ้น

          หุ้น PTTEP ราคาขยับขึ้น 2.23% มาอยู่ที่ 183 บาท เพิ่มขึ้น 4 บาท มูลค่าซื้อขาย 296.00 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.11 น. โดยเปิดตลาดที่ 183 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 183 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 182 บาท 
          บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส แนะ"ซื้อลงทุน"หุ้น บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP)ให้มูลค่าพื้นฐาน ณ สิ้นปี 2551 ที่หุ้นละ 201.69 บาท ประเมินว่า PTTEP รับประโยชน์โดยตรงจากการปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องถึงราคาก๊าซฯที่จะมีการปรับตัวขึ้นตามในอนาคตด้วย และปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อาทิ โครงการอาทิตย์ (2Q51 กำลังการผลิต 330 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน) โครงการอาทิตย์เหนือ (3Q51 กำลังการผลิต 120 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน) โครงการเวียดนาม 9-2 (3Q51 กำลังการผลิต 2 หมื่นบาร์เรลต่อวัน) และโครงการ MTJDA (2H52 กำลังการผลิต 270 ล้านลบ.ฟุตต่อวัน) ซึ่งส่งผลให้กำไรของ PTTEP มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง 
          โดยในปี 2551 คาดกำไรจะเติบโตสูงถึง 43%yoy (ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่ได้รวมผลผลิตคอนเดนเสทจากแหล่งอาทิตย์ที่เพิ่มขึ้นกว่าคาดเป็น 2 หมื่นบาร์เรล จากเดิมคาดไว้เพียง 1 หมื่นบาร์เรล) และคาดว่าแนวโน้มกำไรในงวด 2Q51 จะทำ New High สำหรับไตรมาสต่อเนื่องจากทั้งราคาขายเฉลี่ยที่ปรับสูงขึ้นและปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นจากโครงการใหม่อาทิตย์
          บล.สินเอเซีย แนะ"ถือลงทุนระยะยาว"หุ้น PTTEP โดยมีราคาเป้าหมายปี 51 ที่ 179 บาท จากวิธี DCF โดยระยะสั้น อาจเล่นเก็งกำไรตามภาวะราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นในระยะนี้ 
          ปัจจัยระยะสั้น แนวโน้ม 2Q51 น่าจะดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ จากยอดขายปิโตรเลียมของ PTTEP จะเติบโตอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากเริ่มรับรู้แหล่งอาทิตย์ที่เริ่มผลิตก๊าซธรรมชาติตามสัญญาที่ 330 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวันประมาณ 2 เดือน และปัจจัยระยะกลาง คาดว่าปลายปี 51 จะสามารถรับรู้ปริมาณสำรองจากแหล่ง M-9 ในพม่าได้หลังจากเซ็นสัญญาซื้อขายก๊าซธรรมชาติแล้ว โดยการประเมินเบื้องต้น คาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าหุ้นประมาณ 6.72 บาทต่อหุ้น (Discount rate 11%)
          ทั้งนี้ คาดว่า กำไรปกติปี 51 จะเพิ่มขึ้น 33.5% YoY และคาดว่า ระยะยาว PTTEP จะยังเติบโตได้จากแหล่งผลิตต่างๆ ที่อยู่ระหว่างการสำรวจและพัฒนา ทั้งในแหล่งอาทิตย์ในอ่าวไทย แหล่งผลิตในเวียดนาม พม่า รวมทั้งตะวันออกกลาง ซึ่งจะเป็น Upside ให้กับมูลค่าหุ้นได้ในอนาคต