เมื่อคืนวันที่ 5 มี.ค.ราคาบิทคอยน์พุ่งแตะ 69,000 ดอลลาร์ที่กระดาน Binance Global เป็นเวลาสั้น ๆ ก่อนที่จะร่วงลงค่อนข้างแรง ทำให้มูลค่า Marketcap ของบิทคอยน์ในขณะที่เรากำลังทำคลิปอยู่ที่อันดับ 9 เบียดแซงแพลตฟอร์มโซเชียลยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Meta หรือ Facebook ลงไปแล้ว และกำลังเบียดแซงอันดับ 9 อย่าง Silver เข้าไปทุกที ไม่รู้เป็นเพราะเหตุนี้รึเปล่า คืนก่อนหน้านี้ทั้ง Facebook ทั้ง Instragram ก็ไม่สามารถใช้งานไปได้ชั่วขณะ
และแน่นอน บิทคอยน์ สินทรัพย์ใหม่ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าจะเป็นสินทรัพย์ที่ hedge กับเงินเฟ้อได้เป็นอย่างดี ภายในเพียงแค่เดือนเดียวราคาพุ่งกว่า 54% แล้ว ราคาบิทคอยน์ที่สวิงขนาดนี้ยังไหวกันรึเปล่า
*USDT เสกเหรียญเพิ่มพันล้านดอลลาร์รองรับตลาดกระทิง
ท่ามกลางตลาด Bull Run บริษัทเจ้าของเหรียญ USDT เหรียญ Stable Coin ชื่อดังอย่าง Tether ก็ได้ทำการเสกเหรียญ USDT เพิ่มอีก 1,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Paolo Ardoino, CEO ของ Tether ก็ได้ออกมาชี้แจงบนแพลตฟอร์ม X ว่าการที่เขาเสกเหรียญ USDT เพิ่มขึ้นมาก็เพื่อเพิ่มสภาพคล่องบน Tron Network เท่านั้น
ฟังแล้วเชื่อกันหรือไม่ หรือว่า Tether กำลังเตรียมรับมือตลาด Bull Run หรือเปล่า
*เหรียญมีมไม่น้อยหน้าพาเหรดพุ่งทะยานผลตอบแทนมากกว่าบิทคอยน์ กว่า 6 เท่า!!!
หลังจากที่เหรียญหลักอย่างบิทคอยน์ราคาปรับขึ้นไปมาก ก็พาเอาเหรียญรอง เหรียญมีมต่าง ๆ ทยอยกันขึ้นตาม ทาง sentiment แพลตฟอร์มการวิเคราะห์บล็อกเชนได้ออกมาเปิดเผยถึงปริมาณการซื้อขายเหรียญมีม อย่าง PEPE, FLOKI, SHIBA INU หรือแม้แต่ BONK เพิ่มขึ้นกว่า 3,000%
ปริมาณการซื้อขายเหรียญมีมที่มากขึ้นเช่นนี้ แน่นอนว่านำไปสู่การปรับขึ้นของราคา อย่าง PEPE ที่พุ่งขึ้นกว่า 370%, FLOKI ราคาปรับขึ้นกว่า 350% BONK ราคาขึ้นกว่า 190% และ DOGE ขึ้น 90% SHIBA INU ขึ้นไปกว่า 175% ค่ะ
แต่เหรียญมีมก็ยังเป็นเหรียญมีมอยู่วันยังค่ำ หลังจากราคาเหรียญกลุ่มนี้พุ่งได้ไม่นานก็ร่วงลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ใครที่คิดอยากเทรดเหรียญมีมควรเพิ่มความระมัดระวังให้มากขึ้น
https://youtu.be/Pdmz0LQaAIQ