(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้นตามภูมิภาค รับความหวังเฟด-ECB ลดดอกเบี้ยกลางปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 8, 2024 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ คาดว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ ปรับตัวขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวก ตอบรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีโอกาสปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงกลางปีนี้ หนุนภาพตลาดสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวขึ้น และส่งผลกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนค่า รวมถึงอัตราพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ย่อตัวลง มาอยู่ที่ 4.08% ต่ำสุดในรอบเดือน ขณะที่เมื่อดูโอกาส หรือความน่าจะเป็นที่นักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงครั้งแรกในเดือนมิ.ย.ปีนี้ ก็ปรับตัวสูงขึ้นมาที่ 68% ซึ่งภาพทุกอย่างสอดคล้องไปในทางเดียวกัน

ทั้งนี้แนะติดตามการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้

ให้แนวรับไว้ที่ 1,365 จุด และแนวต้าน 1,380 จุด

*ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (7 มี.ค.) ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 38,791.35 จุด เพิ่มขึ้น 130.30 จุด หรือ +0.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,157.36 จุด เพิ่มขึ้น 52.60 จุด หรือ +1.03% และดัชนี NASDAQ ปิดที่ 16,273.38 จุด เพิ่มขึ้น 241.83 จุด หรือ +1.51%
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,275.39 จุด เพิ่มขึ้น 45.61 จุด หรือ +0.28% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,026.17 จุด ลดลง 1.23 จุด หรือ -0.04% ขณะที่ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 39,809.56 จุด เพิ่มขึ้น 210.85 จุด หรือ +0.53%
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 มี.ค.) ที่ 1,372.16 จุด เพิ่มขึ้น 1.61 จุด (+0.12%) มูลค่าซื้อขาย 39,388.21 ล้านบาท
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,589.57 ล้านบาท (7 มี.ค.)
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. (7 มี.ค.)ลดลง 20 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 78.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 มี.ค.) อยู่ที่ 5.68 เหรียญ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.50 แข็งค่ารอบ 1 เดือน รับดอลลาร์อ่อนค่าหลังบอนด์ยีลด์ชะลอ
  • ธปท. เปิดไทม์ไลน์การยื่นขอใบอนุญาตตั้ง "เวอร์ชวลแบงก์" เปิดรับสมัคร 20 มี.ค.-19 ก.ย. 67 ใช้เวลาพิจารณา 9 เดือน ก่อนประกาศผลผู้ผ่านการคัดเลือก 3 รายแรกเดือนมิ.ย.68 ตั้งเป้าเปิดให้บริการเดือนมิ.ย.69 ชี้ไม่ได้เอื้อ "ทุนใหญ่" ครองตลาด แต่หวังให้เกิดบริการรูปแบบใหม่ หนุนต้นทุนให้บริการลดลง เตรียมเรียกแบงก์ชี้แจงเก็บค่าฟีรูดบัตรเครดิตสกุลบาทจากร้านค้าต่างประเทศ 1%
  • พีระพันธุ์" มั่นใจ ราคาค่าไฟช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. ไม่สูงกว่าปัจจุบัน หรือ 4.18 บาทต่อหน่วย หลังลงพื้นที่ตรวจการผลิตก๊าซกลางอ่าวไทยพร้อมหารือ กฟผ. ให้ช่วยกันดูแลประชาชนเต็มที่
  • สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) ชี้ ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนอีก 3 เดือนข้างหน้า จับตากลุ่มนักลงทุนสถาบันเข้าเกณฑ์ "ร้อนแรง" หมวดขวัญใจมหาชน "กลุ่มท่องเที่ยว" ยังเป็นตัวตึงดึงเงินเข้าลงทุนมากสุด ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นรวมทุกกลุ่มนักลงทุน 3 เดือนข้างหน้าอยู่ในเกณฑ์ "ทรงตัว" ปรับขึ้น 37.8% จากเดือนก่อนหน้าอยู่ที่ระดับ 106.88
  • ม.หอการค้า เปิดตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นเดือน ก.พ. ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 สูงสุดในรอบ 48 เดือน ได้มาตรการรัฐ ทั้ง Easy E-Receipt ปรับลดค่าไฟฟ้า-น้ำมัน ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยว ดันเศรษฐกิจไทยเดือน เม.ย.พลิกฟื้น รับอานิสงส์ท่องเที่ยวคึกคัก-งบประมาณฯ พร้อมลงในราชกิจจานุเบกษาต้นเดือน เม.ย.นี้

*หุ้นเด่นวันนี้

  • HTC (เมย์แบงก์) เป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 19.00 บาท อุณหภูมิยิ่งสูง ยิ่งหนุนรายได้ ผลประกอบการปี 67 ยังมีแนวโน้มขยายตัวจากรายได้ที่ทางบริษัทตั้งเป้าเติบโต 6-8% หนุนจากการออกสินค้าใหม่ การเพิ่มความหลากหลายขนาดสินค้าและช่องทางการจำหน่าย ขณะที่ GPM ในปี 2567 คาดดีขึ้นจากการปรับลดต้นทุน โดยหนึ่งในกลยุทธ์คือการเพิ่มกำลังการผลิตของขวดแก้ว(เริ่มผลิต ไตรมาส 4/67) ที่สามารถ reuse ส่งผลบวกต่อกำไรขั้นต้นดีขึ้นในระยะยาว ไตรมาส 1/67 แนวโน้มกำไรมีโอกาสลดลง YoY จากฐานสูงปีก่อน แต่จะขยายตัว QoQ เรามอง Upside ที่เกิดขึ้นมาจากการท่องเที่ยวภาคใต้และฤดูร้อนปีนี้จะร้อนกว่าปกติ หนุนความต้องการบริโภค ราคาหุ้นซื้อขายบน PER 67E ที่ +/-10 เท่า (ต่ำกว่ากลุ่มเครื่องดื่ม ICHI 19 เท่า SAPPE 23 เท่า)
  • KCG (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า 12.3 บาท ผลประกอบการอยู่ในทิศทางขาขึ้นรายได้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกิน 10% ในปีนี้ ต้นทุนการผลิตและการใช้จ่ายมีแนวโน้มลดลงจากการเปิด KCG Logistic Park ในช่วงครึ่งปีหลัง PE ไม่แพง 14 เท่า เทียบกับคาดการณ์ EPS ปีนี้ที่ 21%
  • BCH (อินโนเวสท์เอกซ์) มองเป็นหุ้นเด่นของเราในฐานะ earning play โดยปี 2567 คาดกำไรปกติจะเติบโต 18% YoY สู่ 1.8 พันลบ. แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มการแพทย์ แรงหนุนจากการดำเนินงานที่เติบโตเพิ่มขึ้นที่โรงพยาบาลเปิดใหม่ 3 แห่ง สำหรับไตรมาส 1/67 คาดกำไรปกติจะเติบโต YoY และ QoQ จากปัจจัยฤดูกาล

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ