นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.เอเชียนน้ำมันปาล์ม (APO) เปิดเผยว่า APO มีความพร้อมนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน (โรดโชว์) เพื่อเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 100 ล้านหุ้น กำหนดเดินทางทั้งสิ้น 5 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ขอนแก่น เชียงใหม่ สงขลา และ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 11-18 มี.ค.67
บริษัทมั่นใจว่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจาก APO มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของกลุ่มผู้ก่อตั้ง และผู้บริหารที่สืบทอดกิจการกันรุ่นต่อรุ่นตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี โดยนำองค์ความรู้และเทคโนโลยีปัจจุบันมาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจ ถือเป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่น
ประกอบกับ ภาพรวมอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์มมีทิศทางขยายตัวตามความต้องการทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทตั้งอยู่ที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งอยู่ในภาคใต้ของประเทศที่มีพื้นที่ผลผลิตปาล์มสดหนาแน่น มีเนื้อที่เพาะปลูกประมาณ 5.37 ล้านไร่ คิดเป็น 85.91 % ของเนื้อที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมันของประเทศไทย จึงมั่นใจว่า APO จะเป็นธุรกิจที่มีโอกาสการเติบโตสูง
ปัจจุบัน APO มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 120 ล้านบาท เตรียมเพิ่มทุนอีก 50 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.50 บาท รวมเป็นทุนจดทะเบียนหลัง IPO ที่ 170 ล้านบาท โดยจะเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 100 ล้านหุ้น คิดเป็น 29.41% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดที่ออกและจำหน่ายแล้วของบริษัทภายหลัง IPO และจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดธุรกิจเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร
นายสิทธิภาส อุดมผลกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร APO เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบ จำหน่ายผลิตภัณฑ์หลักจากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยได้ รวมถึงผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และใช้ในกระบวนการผลิตของบริษัท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการ Asian Plus+ ให้ความรู้ ความเข้าใจ ส่งเสริมเกษตรกร นำผลปาล์มที่มีคุณภาพมาจำหน่ายให้กับบริษัท ส่งผลให้อัตราการสกัดน้ำมันปาล์มดิบ (OER) ของบริษัทอยู่ในอันดับต้นของโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มดิบ จากการจัดอันดับของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่
บริษัทมีความมุ่งมั่นสร้างธุรกิจจากผลิตภัณฑ์การเกษตรแบบบูรณาการและยั่งยืน เพื่อส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ราคาเหมาะสม ภายใต้การจัดหาวัตถุดิบและกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพ โดยกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัท ได้แก่ ผู้ผลิตขั้นปลายน้ำ หรือโรงกลั่นน้ำมันปาล์มดิบในประเทศ ประมาณ 53.06% กลุ่มลูกค้ารองของบริษัท ได้แก่ กลุ่มจัดหาและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ (Trader) 35.61% และกลุ่มโรงสกัดน้ำมันปาล์มดิบ 11.33%
สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมในปี 64-66 อยู่ที่ 1,061.70 ล้านบาท 2,091.93 ล้านบาท และ 1,526.06 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 12.33 ล้านบาท 28.25 ล้านบาท และ 12.99 ล้านบาท ตามลำดับ