บลจ.เอ็มเอฟซี (MFC) เปิดขายกองทุน "MDSHARC1YF" ชูกลยุทธ์ลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงขาดทุนเงินต้น จากการลงทุนในตราสารหนี้ ล็อกผลตอบแทน 0.25% ในระยะเวลา 1 ปี พร้อมโอกาสรับผลตอบแทนส่วนเพิ่มสูงสุด 8% จากดัชนี Nikkei 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นทั้งขาขึ้นและขาลง ตอบโจทย์ตลาดหุ้นผันผวน เสนอขาย IPO ครั้งเดียว ตั้งแต่ 15-21 มี.ค. 67
นายธนโชติ รุ่งสิทธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ MFC มองแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นทั่วโลกยังมีความผันผวน จึงนำเสนอ "กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี Complex Structured Return 1YF ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย" หรือ MDSHARC1YF มีกลยุทธ์ลดความเสี่ยงการขาดทุนของเงินต้น โดยเลือกลงทุนในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝากที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับ Investment Grade โดยมีเป้าหมายเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตเป็นร้อยละ 100 ของเงินลงทุนทั้งหมด พร้อมรับผลตอบแทน 0.25% ต่อปีและมีการลงทุนในตราสารอนุพันธ์ เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มจากตลาดขาขึ้นและขาลงตามการเคลื่อนไหวของดัชนีอ้างอิง Nikkei 225 (NKY) ตามกลยุทธ์แบบ Dual Shark Fin เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง กำหนดเสนอขายกองทุนครั้งเดียว (IPO) ระหว่างวันที่ 15-21 มีนาคม 2567 นี้ เงินลงทุน 500,000 บาท
"กองทุน MDSHARC1YF" มีอายุโครงการ 1 ปี เป็นกองทุนรวมผสม ซึ่งจะแบ่งเงินลงทุนออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ และ/หรือตราสารหนี้ภาคเอกชน และ/หรือเงินฝาก ทั้งในและ/หรือต่างประเทศที่มีอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade) ประมาณ 97.50-99.00% ของ NAV โดยมีการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน (Currency Hedging) สำหรับการลงทุนในตราสารหนี้ และ/หรือเงินฝากต่างประเทศทั้งจำนวน ซึ่งเงินลงทุนส่วนนี้มีเป้าหมายเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตเป็น 100% ของเงินลงทุนทั้งหมด พร้อมรับผลตอบแทน 0.25% ต่อปี
ส่วนที่ 2 ลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) ประเภทสัญญาออปชั่น (Options) หรือวอร์แรนท์ (Warrants) ที่มีการจ่ายผลตอบแทนอ้างอิงกับดัชนี Nikkei 225 (NKY) ตามเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทน ซึ่งเป็นส่วนสร้างผลตอบแทนส่วนเพิ่มให้กับกองทุน จากการเปลี่ยนแปลงของดัชนี NKY ทั้งขาขึ้นและขาลง โดยจะลงทุนประมาณ 1.00-2.50% ของ NAV ทั้งนี้ กองทุนจะไม่ป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับการลงทุนในสัญญาออปชั่นหรือวอร์แรนท์
สำหรับเงื่อนไขการจ่ายเงินต้นและผลตอบแทนของกองทุน ณ วันครบอายุโครงการ แบ่งเป็น 3 กรณี
กรณีที่ 1 ดัชนี NKY ณ วันทำการใดวันทำการหนึ่งในระหว่างอายุสัญญา หรือ ณ วันพิจารณาสินทรัพย์อ้างอิง ปรับขึ้นมากกว่า +20% หรือ ลดลงมากกว่า -20% เมื่อเทียบกับวันเริ่มต้นสัญญา จะถือเป็นการ Knock Out ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นคืนเต็มจำนวน พร้อมผลตอบแทนจากตราสารหนี้และ/หรือเงินฝาก 0.25%
กรณีที่ 2 ดัชนี NKY ไม่เปลี่ยนแปลงหรือลดลงไม่เกิน -20% เมื่อเทียบกับวันเริ่มต้นสัญญา ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นเต็มจำนวน พร้อมกับผลตอบแทนจากตราสารหนี้และ/หรือเงินฝาก 0.25% บวกกับผลตอบแทนจากการลงทุนในสัญญาออปชั่นหรือวอร์แรนท์
กรณีที่ 3 ดัชนี NKYเพิ่มขึ้นไม่เกิน +20% เมื่อเทียบกับวันเริ่มต้นสัญญา ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นเต็มจำนวน พร้อมกับผลตอบแทนจากตราสารหนี้และ/หรือเงินฝาก 0.25% บวกกับผลตอบแทนจากการลงทุนในสัญญาออปชั่นหรือวอร์แรนท์
"จุดเด่นของกองทุนที่รักษาเงินต้นแล้ว ยังช่วยลดความเสี่ยงเรื่องสภาพคล่องจากอายุโครงการเพียง 1 ปีและโอกาสสร้างผลตอบแทนจากตลาดหุ้นญี่ปุ่นไม่ว่าจะปรับตัวขึ้นหรือลดลง หากดัชนี NKY เคลื่อนไหวเป็นไปตามเงื่อนไข คือ ปรับตัวขึ้นหรือลดลงไม่เกิน 20% ณ วันพิจารณาสินทรัพย์อ้างอิง กองทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนสูงสุด 8.0% แต่หากดัชนีเคลื่อนไหวนอกกรอบที่กำหนด ผู้ลงทุนจะได้รับเงินต้นพร้อมผลตอบแทน 0.25%" นายธนโชติ กล่าว