นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) กล่าวว่า บริษัทประเมินว่าในปีนี้จะต้องรับภาระขาดทุนจากราคาขายปลีกน้ำมันและการชดเชยราคาก๊าซในประเทศไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท โดยแบ่งเป็นภาระที่เกิดจากการชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันประมาณ 5 พันล้านบาท ซึ่งในช่วงไตรมาส 1/51 ขาดทุนในส่วนนี้แล้ว 3.2 พันล้านบาท และการชดเชยราคาก๊าซราว 2.5 หมื่นล้านบาท ทั้งก๊าซ LPG และ NGV
สำหรับทิศทางราคาน้ำมันในประเทศขณะนี้มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นตามการพุ่งขึ้นราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากราคายังเป็นขาขึ้นต่อไปจนถึงสัปดาห์หน้า ปตท.ก็คงจำเป็นต้องปรับขึ้น ซึ่งขณะนี้ค่าการตลาดน้ำมันดีเซลยังติดลบอยู่ถึง 1 บาท
และมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นราคาน้ำมันเบนซินในประเทศแตะระดับ 40 บาท/ลิตรในไม่ช้านี้ หลังสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจขึ้นไปแตะระดับ 140-150 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลตามที่มีผู้คาดการณ์ไว้
นายประเสริฐ กล่าวว่า ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นเป็นผลจากการเก็งกำไรของกองทุนต่างๆ ประกอบกับมีเหตุการณ์ความไม่สงบในหลายประเทศ เช่น ไนจีเรีย ดังนั้นอยากให้ประชาชนหันไปพลังงานทางเลือก เช่น แก๊สโซฮอล์ที่มีราคาถูกกว่าน้ำมัน 4-6 บาท/ลิตร
ส่วนกรณีที่ประเทศพม่าได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนนาร์กีสนั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการจัดส่งก๊าซธรรมชาติ เพราะยังสามารถจัดส่งให้ได้ตามปกติ โดยปริมาณก๊าซธรรมชาติที่พม่าจัดส่งให้ไทยนั้นคิดเป็นสัดส่วนราว 1 ใน 4 ของปริมาณก๊าซธรรมชาติทั้งหมด รวมทั้งกิจการของเครือ PTT ในพม่าก็ไม่ได้รับผลกระทบ ซึ่งจะเดินหน้าลงทุนต่อเนื่องตามแผนงานต่อไป
--อินโฟเควสท์ โดย จริญยา ดำสมาน/ศศิธร โทร.0-2253-5050 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--