นางสาวอลิสา ชีวะเกตุ Corporate Image & Treasury Manager บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 67 เติบโต 15% จากปีก่อนทำได้ 1,850 ล้านบาท และคาด EBITDA มากกว่า 20% ของรายได้รวม โดยจะมาจากธุรกิจผลิตปิโตรเลียม ของแหล่งบูรพา (L11/43) และแหล่งอรุโณทัย (L10/43) มีการติดตั้งเครื่อง Artificial lift ไปแล้ว 1 ชุดเมื่อเดือนธ.ค.66 และเตรียมติดตั้งอีก 2 ชุด คาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1/67 เพื่อเพิ่มการผลิตปิโตรเลียมให้ได้วันละ 300 บาร์เรลต่อวัน (BBL/D)
ส่วนธุรกิจเทรดดิ้ง คาดมียอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้
ทั้งนี้ยังเตรียมรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าภูผาม่าน (PPM) กำลังการผลิตรวม 3 เมกะวัตต์ โดยเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เดินเครื่อง Generator#1 กำลังการผลิต 1.5 เมกกะวัตต์ ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 ก.พ.67 และคาดว่า Generator#2 กำลังการผลิต 1.5 เมกกะวัตต์ จะเริ่ม COD ได้ในไตรมาส 2/67 นอกจากนี้ บริษัทยังมองโอกาสเข้าประมูลขายไฟฟ้ารอบใหม่ของภาครัฐที่จะออกมาด้วย
โครงการ PT Cahaya Yasa Cipta (CYC) ซึ่งเป็นการลงทุนของบริษัท ยูเอซี เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด(บริษัทย่อย) ในบริษัท PT Cahaya Cipta สัดส่วน 70% เพื่อดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในประเทศอินโดนีเซีย มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี คาดว่าจะจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ในพื้นที่ใกล้เคียง ล่าสุดได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากธนาคารแมสเปี้ยน ในกลุ่ม KBANK จำนวน 60,000,000,000 IDR เพื่อใช้เป็นเงินลงทุนสำหรับโครงการก่อสร้างโรงงานผลิต RDF3 ของ CYC ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างและยื่นขอใบอนุญาตต่างๆ และคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างโรงงานพร้อมเปิด COD ได้ไตรมาส 4/67
สำหรับการลงทุนโครงการผลิตเชื้อเพลิงขยะ (RDF) นั้น ทาง UAC มองว่าโอกาสผลิตจากขยะชุมชน (Municipal Solid Waste) เพื่อเพิ่มมูลค่าจากของเหลือทิ้ง ดังนั้นมองว่าการลงทุนโครงการโรงงานผลิต RDF3 ที่เมือง Sukabumi จะเป็นการต่อยอดธุรกิจในรูปแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) สอดรับกับการคำนึงถึงความรับผิดชอบด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ การกำกับดูแลกิจการ (ESG) ซึ่งเป็นหลักการในการวางรากฐานความยั่งยืนและเสริมสร้างความมั่นคงและผลตอบแทนให้กับบริษัทฯ ในระยะยาว
โดยโรงงานผลิต RDF3 เป็นธุรกิจใหม่ที่ UAC เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่าย RDF3 ในประเทศอินโดนีเซีย ที่มีกำลังการผลิตประมาณ 40,000 ตัน/ปี โดยจำหน่ายให้กับโรงปูนซีเมนต์ PT Semen Jawa บริษัทในเครือ SCG