ทริสฯ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ 2 หมื่นล้านของ GULF ที่ "A" แนวโน้ม "Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 14, 2024 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ. กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ที่ระดับ " A+" และ คง อันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของบริษัทที่ระดับ "A" พร้อมแนวโน้มอันดับเครดิต " Stable" หรือ "คงที่"

ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้ง ยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ชุดใหม่ใน วงเงินไม่เกิน 2 หมื่นล้านบาท และมีอายุไม่เกิน 10 ปี ของบริษัทที่ระดับ " A" ด้วย โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ขยายธุรกิจและ/หรือ ใช้ ชำระหนี้

อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงสถานะของบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำในธุรกิจผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย ตลอดจนการลงทุนที่มีการกระจายตัวที่ดี ผลงานในการพัฒนาและดำเนินงานโรงไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับ รวมถึงกระแสเงินสดที่คาดการณ์ได้ในระดับสูงจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาวกับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ. อันดับเครดิต " AAA/Stable")

อย่างไรก็ตาม ความแข็งแกร่งดังกล่าวก็ลดทอนลงจากความเสี่ยงอันเนื่องมาจากการลงทุนในต่างประเทศของบริษัทและภาระหนี้สินที่อาจจะเพิ่มสูงขึ้นได้ในช่วงขยายการลงทุน

บริษัทรายงานผลการ ดำเนินงาน ที่น่าพอใจ ในช่วงที่ผ่านมา โดย กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย ( EBITDA) เพิ่มขึ้น 23 23% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 3.6 หมื่นล้านบาทในปี 2566 จาก ปัจจัย สนับสนุน คือ การเปิดดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ของบริษัท ในขณะที่ อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA นั้น ก็ ยัง อยู่ภายใต้การควบคุมที่ดี โดยอยู่ที่ระดับ 6. 7 เท่าในปี 2566

อันดับเครดิตหุ้นกู้ของบริษัทซึ่งต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรอยู่ 1 ขั้นนั้นสะท้อนถึงลักษณะการด้อยสิทธิของหุ้นกู้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทเมื่อเปรียบเทียบกับหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน ( Priority Debt) ทั้งนี้ ณ เดือน ธันวาคม 256 6 หนี้เงินกู้รวมของบริษัท ซึ่งไม่รวมหนี้สินตามสัญญาเช่า มีจำนวนทั้งสิ้น ประมาณ 2.83 แสนล้านบาท โดยเป็นหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อน จำนวน 1. 4 4 แสนล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยหนี้เงินกู้ที่มีหลักประกันของบริษัทและหนี้เงินกู้ทั้งหมดของบริษัทย่อย ทำให้อัตราส่วนหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนต่อหนี้สินรวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 51% ซึ่งส่งผลทำให้เจ้าหนี้ที่ไม่มีหลักประกันของบริษัทมีความด้อยสิทธิ์กว่าเจ้าหนี้ที่มีลำดับในการได้รับชำระคืนก่อนอย่างมีนัยสำคัญเมื่อพิจารณาจากลำดับสิทธิ์เรียกร้องในสินทรัพย์ของบริษัท

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า โรงไฟฟ้าของบริษัทที่เปิดดำเนินงานแล้วจะผลิตไฟฟ้าได้อย่างราบรื่นและสร้างกระแสเงินสดได้ตามแผน ในขณะที่โรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างนั้นคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินงานได้ตามกำหนดการ อีกทั้งกลยุทธ์การเติบโตของบริษัทจะไม่ทำให้สถานะความเสี่ยงด้านการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญ

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตนั้นมีจำกัดในระยะสั้นเมื่อพิจารณาจากแผนการขยายการลงทุนจำนวนมากของบริษัท แต่ก็อาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทสามารถลดภาระหนี้สินลงได้อย่างมีนัยสำคัญ

ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตก็อาจได้รับการปรับลดลงหากสถานะความเสี่ยงด้านการเงินของบริษัทอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการลงทุนด้วยการก่อหนี้จำนวนมาก การมีต้นทุนในการก่อสร้างที่บานปลายอย่างมีสาระสำคัญ หรือความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่ถดถอยลงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อ EBITDA ที่ระดับเกินกว่า 8 เท่าเป็นอย่างมากและต่อเนื่องก็อาจส่งผลกดดันต่ออันดับเครดิตได้เช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ