นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทย เช้านี้คาดอ่อนตัวลง เป็นไปตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย ถูกกดดันจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐออกมาสูงกว่าคาด โดยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิต ปรับตัวขึ้น 1.6% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.1% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน (Core PPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.0% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.9% ทำให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า รวมถึงอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวขึ้น มาอยู่ที่ 4.3% ส่งผลลบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้น
อย่างไรก็ดีตลาดหุ้นไทยคงไม่ได้ปรับตัวลงแรง แต่เป็นการอ่อนตัวลง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้น คาดหุ้นกลุ่มพลังงาน เข้ามาพยุงตลาดเอาไว้ได้
แต่ต้องระวังแรงขายช่วงปิดตลาดวันนี้ เนื่องจากจะมี FTSE Rebalance โดย Large Cap ไม่มีหุ้นเข้าใหม่ แต่มีหุ้นถูกปรับ ออก 4 หลักทรัพย์ คือ CPF HMPRO IVL SCGP (ลดลงชั้นไปเป็นกลุ่ม Mid Cap) ทำให้รอบนี้หุ้นในกลุ่ม Mid Cap ไม่มีหุ้นที่ปรับออก และกลุ่ม Small Cap ไม่มีหุ้นเข้าใหม่ แต่มีหุ้นถูกปรับออก 5 หลักทรัพย์ คือ KEX RABBIT RAM SAMART WORK ทำให้ช่วงเย็นวันนี้ตลาดน่าจะมีความผันผวน อีกทั้งในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมของธนาคารกลางหลายแห่ง ทั้งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE)
ให้แนวรับที่ 1,380 จุด และแนวต้าน 1,405 จุด