SET ปิดภาคเช้าที่ระดับ 1,390.63 จุด ลดลง 4.30 จุด (-0.31%) มูลค่าซื้อขายราว 19,210 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยปรับลงตามตลาดต่างประเทศหลัง PPI สหรัฐออกมาสูงกว่าคาด ส่งผลตลาดกลับมากังวลดอกเบี้ย-เงินเฟ้อ จากก่อนหน้านี้รับรู้ประธานเฟดส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยไปแล้ว แต่เชื่อหุ้นไทยลงแค่สั้น ๆ จากเศรษฐกิจเริ่มฟื้น แต่ช่วงบ่ายคาดยังแกว่งลบ ให้แนวต้าน 1,395 จุด แนวรับที่ 1,385 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,390.63 จุด ลดลง 4.30 จุด (-0.31%) มูลค่าซื้อขายราว 19,210 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนลบ ทำจุดสูงสุด 1,32.77 จุด และต่ำสุด 1,386.08 จุด
นายวทัญ จิตต์สมนึก ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.พาย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวลงตามตลาดต่างประเทศจากแรงกดดันจากตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้ผลิตในเดือนก.พ.ออกมาสูงกว่าคาด ทำให้ตลาดกลับมากังวลเรื่องดอกเบี้ยอาจปรับลงช้าและเงินเฟ้อสูง จากก่อนหน้านี้คลายกังวลหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ยแน่นอน จึงเป็นแรงกดดันหุ้นเอเชียปรับตัวลง
อย่างไรก็ดี เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยจะได้รับแรงกดดันระยะสั้น ๆ เท่านั้น เพราะภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้น โดยในเดือนม.ค.67 ตัวเลขส่งออกโต 10% ตัวเลขนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ ม.ค.ถึงต้น มี.ค.เติบโตถึง 50% yoy
แนวโน้มการลงทุนช่วงบ่าย ตลาดหุ้นน่าจะยังแกว่งในแดนลบจากปัจจัยต่างประเทศ
ให้แนวต้านที่ 1,395 จุด แนวรับที่ 1,385 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,188.75 ล้านบาท ปิดที่ 153.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 724.58 ล้านบาท ปิดที่ 67.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 600.65 ล้านบาท ปิดที่ 124.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
STA มูลค่าการซื้อขาย 587.73 ล้านบาท ปิดที่ 20.90 บาท ลดลง 0.40 บาท
SCB มูลค่าการซื้อขาย 586.78 ล้านบาท ปิดที่ 114.50 บาท ลดลง 0.50 บาท