ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ตลาดทุนไทยเผชิญกับเหตุการณ์ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นอย่างมาก ทั้งกรณีการสร้างราคาหุ้น MORE การทุจริตของ STARK ส่งผลเสียหายเป็นวงกว้าง ถือเป็นความท้าทายของผู้คุมกฎสำคัญ อย่างสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่จะ Action ออกมาเพื่อเรียกคืนความเชื่อมั่น ทั้งการปรับกฎเกณฑ์ แก้กฎหมาย การประสานกับหน่วยงานอื่น โดยเฉพาะตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องทำงานสอดประสานสร้างความคุ้มครองนักลงทุนอย่างเหมาะสม
นางพรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "อินโฟเควสท์" ระบุว่า การเรียกความเชื่อมั่นจะมาได้เมื่อเห็น Action อย่างจริงจังที่ให้กับผู้ลงทุนได้เห็นความสำคัญในการดูแล ปกป้องผู้ลงทุน และทำให้ผู้ลงทุนได้รับข้อมูลอย่างเหมาะสม
ในช่วงที่ผ่านมา เหตุการณ์หลายอย่างที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าทำให้เกิดความบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากการกระทำของบริษัทจดทะเบียน ทั้งการเปิดเผยข้อมูลที่ไม่เหมาะสม มีการทุจริต ทำให้ ก.ล.ต.ต้องหันยมาเน้นย้ำมาตรการควบคุม ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ด้วยการประกาศแนวทาง "ป้องกัน ปราม ปราบ"
รวมถึงการทำให้บริษัทจดทะเบียน (บจ.) มีความเข้มแข็งจะมีแนวทางอย่างไร เริ่มตั้งแต่การที่บริษัทจดทะเบียนเข้ามาระดมทุนในตลาดทุนมีความเข้มแข็ง เช่น ยกระดับเกณฑ์การเปิดให้บริษัทเข้ามาจดทะเบียนเพื่อระดมทุนในตลาดทุน ทั้งยกเกณฑ์ด้านกำไรและทุน ทั้ง SET และ mai ให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังมีมาตรการที่ ก.ล.ต.ไฟเขียวให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับเกณฑ์การขึ้นเครื่องหมายเตือนในลักษณะต่าง ๆ เหมือนกับติดป้ายที่ บจ.เพื่อให้นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวัง ไตร่ตรอง และหาข้อมูลเพิ่มเติมก่อนเข้าไปลงทุน ซึ่งเป็นป้ายเตือนที่ละเอียดขึ้น และทำให้เห็นความชัดเจนว่าหน่วยงานกำกับจะ Action เป็นขั้นตอนอย่างไร ทำให้เห็นการป้องกันและปรามที่เร็วขึ้น
อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.ยังคงเน้นย้ำความร่วมมือกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อหาแนวทางว่าจะทำอย่างไรถึงเพื่อให้นักลงทุนเห็น "ควันไฟ" ได้เร็วขึ้น มีการส่งสัญญาณผ่านระบบต่าง ๆ นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย ซึ่งมองเป็นเรื่องการปราม ทำให้นักลงทุน "เอ๊ะ" ได้เร็ว และมี Action ที่รวดเร็วขึ้น
การบังคับใช้กฎหมายจะต้องทำให้กระบวนการทำงานเร็วขึ้น ไร้รอยต่อ และส่งต่อหน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้อง ประสานการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ปรับกระบวนการทำงาน และปรับทรัพยากรมาใส่ให้ตรงจุดมากขึ้น และมีการแก้กฎหมาย คุ้มครองพยาน และเพิ่มอำนาจพนักงาน ก.ล.ต.สามารถสอบสวนผู้กระทำผิดได้ นำสิ่งที่เป็นข้อจำกัดในปัจจุบันมาปรับให้อำนาจหน้าที่ที่เราทำได้ แต่ก็ไม่ลดทอนการทำงานของตำรวจ เราต้องพัฒนาทักษะของเรา ไม่ต้องรอกฎหมายแก้เสร็จ แต่เมื่อกฎหมายแก้เสร็จเราทำหน้าที่ได้ทันที
*ยกระดับทุกองค์กรคุมเข้ม บจ.ป้องกันทุจริต
ด้านการบังคับใช้กฎหมาย โดยเฉพาะการกล่าวโทษ ก.ล.ต. ได้พยายามในการหาแนวทางทำให้กระบวนการทำงานรวดเร็วมาถึงการกล่อาวโทษได้เร็ว ซึ่งทีมงานของก.ล.ต.ทุกคน ต้องการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และที่ผ่านมามีการกล่าวโทษหลายกรณีออกมาต่อเนื่อง
"หลายคนมองเรื่องเกิดขึ้นหลายปี แต่อยากให้ดูว่าการมี Action มีดีกว่าไม่มี เป็นสิ่งที่เราอยากมุ่งไป และทำสิ่งที่อยู่ในไปป์ไลน์เคลียร์มากขึ้น ซึ่งธรรมชาติตลาดทุนมีทั้งคนดีและไม่ดี ยิ่งตลาดทุนใหญ่ขึ้นมีคนดีและไม่ดีมากขึ้นตาม แต่หน้าที่ ก.ล.ต. ก็ต้องทำงานในเชิงกำกับตลอดเวลา" นางพรอนงค์ กล่าว
ขณะเดียวกัน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังร่วมมือกันมาต่อเนื่อง ซึ่งเป็น Check & Balance โดยที่ ก.ล.ต. ได้ให้แนวทางการทำงานในรูปแบบ Line of defense สร้างแนวทางที่ต้องการให้ผู้ลงทุนได้รับความคุ้มครองมากขึ้น รวมทั้ง Gatekeeper อื่นๆ ผู้ตรวจบัญชี บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Rating Agency) และที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ที่จะมีการยกระดับแนวทางการทำงานให้สอดประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ ก.ล.ต.ได้ใช้มาตรการป้องกันการใช้เครื่องมือ NVDR ของผู้ลงทุนไทยเข้ามาหาผลประโยชน์จากช่องโหว่ของ NVDR ซึ่ง ก.ล.ต.ได้ปิดช่องทางนี้แล้ว หลังจากในอดีตมีผู้ลงทุนไทยใช้ช่องทางนี้แฝงมาหาผลประโยชน์ ทั้งนี้แท้จริงแล้ว NVDR เป็นเครื่องมือและช่องทางในการรับผลประโยชน์ทางการเงินของผู้ลงทุนต่างชาติที่ลงทุนเกินลิมิต
ทั้งนี้ ก.ล.ต. มีเป้าหมายสูงสุดในการดูแลตลาดทุน คือ ทำอย่างไรให้ความคุ้มครองผู้ลงทุนในตลาดทุนได้อย่างเหมาะสม หาจุดที่เหมาะสมในการบริหารจัดการ และดูแลผู้ลงทุน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่นๆในตลาดทุน และไม่ใช่เพียงตลาดทุน แต่รวมไปถึงตลาดตราสารหนี้ การลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ และการลงทุนในต่างประเทศ
"อยากให้มั่นใจบทบาทของ ก.ล.ต. แต่ถ้าจะวิ่งก็ดูแลตัวเองควบคู่ไปด้วย ต้องเข้าใจกฎเกณฑ์ที่เราออกมาดูแลท่าน ซึ่งยอมรับว่าท้าทาย มีโจทย์ที่อยากดูแล และอยากให้ดู Action ที่ ก.ล.ต.ทำ" นางพรอนงค์ กล่าว
https://youtu.be/HNZh-Gvjg3Y