โกลเบล็ก มอง SET แกว่งขึ้นรับราคาน้ำมันสูง-พ.ร.บ.งบปี 67 จัดแถวหุ้นเด่นพร้อมเสิร์ฟ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 19, 2024 10:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก จำกัด (GBS) ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้มีโอกาส Sideway Up โดยแรงหนุนจากการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี 2567 (เพิ่มเติม) ประกอบกับราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ทรงตัวในระดับสูงหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน จึงให้กรอบดัชนีที่ 1,370-1,420 จุด

อีกทั้งยังได้ปัจจัยหนุนจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ล่าสุดได้รายงานยอดค้าปลีกในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.67 ปรับตัวขึ้น 5.5% ดีกว่าโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.2% ขณะที่ยอดค้าปลีกทางออนไลน์พุ่งขึ้น 14.4% ในช่วงเดือน ม.ค.-ก.พ.

ด้านโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป คาดการณ์ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะยุติการใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบนับตั้งแต่ปี 2550 และประกาศขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก และทาง รมว.พาณิชย์สหรัฐฯ สนใจลงทุนในประเทศไทยโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งไทย-สหรัฐเตรียมแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อหารือในรายละเอียดร่วมกัน

ส่วนปัจจัยในประเทศปีนี้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จะสนับสนุนการจัดอีเวนต์คอนเสิร์ตผ่านการให้งบประมาณและอำนวยความสะดวกในการจัดแสดงเพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยไม่เคยหลับไหลด้วยเทศกาลดนตรีและเทศกาลอื่นๆ ทั้งเทศกาล ประเพณี วัฒนธรรม อีเวนต์กีฬา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาปัจจัยกดดันความเชื่อมั่นการลงทุนต่อเนื่อง อาทิ วันที่ 18-19 มี.ค. ครม.สัญจรพะเยา และ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยแถลงปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567, วันที่ 26 มี.ค.วุฒิสภาพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567, วันที่ 29 มี.ค. ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) รายงานภาวะเศรษฐกิจและการเงินไทย

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ วันนี้ 19 มี.ค. อียู รายงาน ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจเดือนมี.ค. สหรัฐ รายงานตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนก.พ. วันที่ 19-20 มี.ค. กำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยจะแถลงมติอัตราดอกเบี้ยเช้าวันที่ 21 มี.ค. วันที่ 20 มี.ค. จีน รายงาน อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี และ 5 ปี สหรัฐ รายงานสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนหุ้นที่ได้ประโยชน์การพิจารณาร่าง พร.บ. งบประมาณรายจ่ายปี 2567 (เพิ่มเติม) ที่คาดว่าจะเร่งเบิกจ่ายได้เร็วขึ้น โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าว ได้แก่ CK, STEC, TASCO และ CRANE

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย GBS ประเมินว่า สัปดาห์นี้ราคาทองคำเคลื่อนไหว Sideway up ในกรอบ 2,120-2,180 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ เนื่องจากยังได้โมเมนตัมเชิงบวกจากการปรับตัวขึ้นตลอดเดือน มี.ค. และความตึงเครียดของสงครามที่อาจทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตาม เราแนะนำให้ติดตามถ้อยแถลงของประธาน ECB และการประชุมเฟดสัปดาห์นี้ (วันที่ 19-20 มี.ค.ทราบผลเช้าวันที่ 21 มี.ค.เวลาในประเทศไทย) แม้ว่านักลงทุนจะคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 5.25-5.50% แต่ควรจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดเพื่อดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมการที่ดอลลาร์อ่อนตัวหลุดแนวรับสำคัญบริเวณ 103.73 ซึ่งปัจจุบันทรงตัวที่ระดับ 102.79 ดอลลาร์ที่อ่อนค่าหนุนราคาทองคำให้ปรับตัวขึ้น ขณะที่กองทุน SPDR เทขาย -6.34 ตัน

ดังนั้น ฝ่ายวิจัยประเมินว่าเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ของสหรัฐมีแนวโน้มทรงตัวเหนือระดับ 3% สอดคล้องกับตลาดที่คาดการณ์ว่าเฟดอาจเลื่อนการปรับลดดอกเบี้ยจาก H1/67 เป็น H2/67 อีกทั้งราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาสูงในสัปดาห์ก่อนหน้าจึงอาจมีแรงขายทำกำไร ระหว่างสัปดาห์หากราคาทองคำปรับตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้าน 2,200 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ คำแนะนำทยอยเทขายทำกำไร


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ