นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซีบี เอกซ์ (SCBX) กล่าวว่า กลุ่มบริษัท SCBX ได้ตั้งเป้าหมายว่าจะมีสัดส่วนรายได้จากเทคโนโลยีที่มาจาก AI ที่ 75% ใน 3 ปีข้างหน้า โดยจะนำเอาเทคโนโลยีดังกล่าวมาปรับใช้ในกระบวนการทำงานทั้งหมด รวมทั้งสร้างหลักสูตรให้พนักงานสามารถเรียนรู้เทคโนโลยี AI และเป็นโอกาสในการพัฒนาตัวเองของพนักงานทุกคน
โดยปัจจุบันภาคธุรกิจเผชิญกับความท้าทายจากการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่น ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ความร่วมมือระหว่างกันที่ลดลง และ Disruptive Technology ซึ่งทำให้โอกาสในการแข่งขันในธุรกิจยากขึ้นและการดำเนินธุรกิจไม่เหมือนเดิม
การปรับตัวของภาคธุรกิจในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลง ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วและต้องมีความอึดทน รวมทั้งต้องมีทักษะในการตัดสินใจที่แม่นยำ โดยที่ธุรกิจดั้งเดิมจะต้องพยายามรักษาองค์กรหรือธุรกิจเดิมไว้ให้ดี และให้ความสำคัญกับการปรับกระบวนการทำงานเดิมให้สะดวกมากขึ้น มีหลักการในเรื่องการลงทุน ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ปรับการทำงานมุ่งเน้นพัฒนาการลงทุนและปรับการบริหาร ลดค่าใช้จ่ายเป็นหลักหมื่นล้าน
ขณะที่ธุรกิจที่เกิดขึ้นมาใหม่และไม่ได้แตกแขนงมาจากธุรกิจดั้งเดิม ควรมีโมเดลธุรกิจแบบ Asset-Light และมีแนวคิดในการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อทดลองทำในธุรกิจที่ทำอยู่ เพราะต้นทุนในการลองผิดลองถูกถ้าทำได้ถูกเท่าไร ยิ่งมีโอกาสในการเรียนรู้และมีโอกาสสำเร็จได้มากกว่า
การดำเนินธุรกิจของกลุ่ม SCBX แบ่งธุรกิจออกเป็น 3 Gen โดยแบ่งเป็น Gen 1 ที่เป็นธุรกิจดั้งเดิม นั่นคือธนาคารไทยพาณิชย์ Gen 2 คือธุรกิจที่นำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยปรับเปลี่ยน เช่น บริษัท เอสซีบี เดต้า เอกซ์ จำกัด (DataX) ซึ่งล่าสุด DataX ได้สร้าง "ไต้ฝุ่น" โมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่พัฒนาขึ้นสำหรับภาษาไทยโดยเฉพาะ และกำลังจะเปิดตัวไต้ฝุ่น 1.0 ประมาณกลางปีนี้ ซึ่งเป็นการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาปรับใช้ในองค์กร และ Gen 3 ที่เป็นกลุ่ม Start Up
"SCBX ได้ให้ความสำคัญกับ AI เต็มที่ เชื่อมั่นว่าเรื่องนี้กำลังเปลี่ยนโลกอยู่ วันนี้เรามีโครงการการทำเรื่อง AI Literacy ของพนักงานในกลุ่มกว่า 20,000 กว่าคน โดยจัดการเรียนรู้เป็นระดับชั้น เพื่อให้สามารถพัฒนาตัวเองในการทำงานที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีได้ โดยเราตั้งหมายของทั้งกลุ่มในอีก 3 ปีข้างหน้า จะต้องมีสัดส่วนรายได้จาก AI 75% โดยนำ AI เข้ามาใช้งานในกระบวนการทำงานทั้งหลังบ้าน และหน้าบ้าน" นายอาทิตย์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากที่มีคนมองประเทศไทยยังไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าต่อได้ และยังเกิดปัญหาภายในประเทศที่มีความขัดแย้งกันอยู่ เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความคิดเห็นสองฝั่งเสมอ ซึ่งมองว่าทุกคนควรหันหน้าเข้าหากัน ทำความเข้าใจ และช่วยกันผลักดัน เพื่อสร้างความหวังให้กับประเทศไทย
"ประเทศไทยมีทรัพยากรต่างๆ และมีความพร้อมในหลายๆด้านที่จะเดินหน้าต่อ แต่ว่ายังเริ่มต้นไม่ถูกซึ่งอาจไม่ใช่การทำโครงการ หรือความคิดที่จะสามารถประสบความสำเร็จได้ทันที แต่เป็นวิธีที่จะทำให้ประเทศมีความมุ่งมั่น แหลมคมและมีกระบวนการในการคลี่คลายความขัดแย้งของความคิดและนำไปสู่การทำงานร่วมกัน" นายอาทิตย์ กล่าว