AURA บวก 0.71% มาอยู่ที่ 14.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 590.28 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 43.75 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 14.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 13.90 บาท
นายพิสุทธิ์ งามวิจิตรวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ราคาทองคำที่ปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดใหม่อย่างต่อเนื่อง อาจไม่ได้ส่งผลบวกต่อราคาหุ้น บมจ.ออโรร่า ดีไซน์ (AURA) มากนัก เพราะจากการสอบถามจากทางผู้บริหารของ AURA พบว่าตั้งแต่ไตรมาส 4/66 จนถึงเดือนก.พ. เริ่มเห็นสัญญาณคนชะลอซื้อทองคำ หรือมีปริมาณ Traffic เข้ามาซื้อขายทองหน้าร้านลดลง เนื่องจากราคาทองสูงกว่ากำลังซื้อ ขณะเดียวกันคนที่เข้าจะเน้นการขายทองเป็นหลัก ทั้งในลักษณะขายขาดและขายฝาก (จำนำ)
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งแรกของเดือนมี.ค.เริ่มเห็นคนบางกลุ่มกลับมาซื้อทองมากขึ้น หลังจากมีผู้เชี่ยวชาญบางรายออกมาประเมินราคาทองว่ามีโอกาสขึ้นไปแตะ 40,000 บาท/บาททองคำ ทำให้คนกลุ่มหนึ่งกล้าตัดสินใจทยอยซื้อเก็บ
นายพิสุทธิ์ เชื่อว่าราคาทองคำมีขึ้น-มีลงตามวัฏจักร หากราคาทองคำเริ่มทรงตัว หรือหยุดปรับตัวขึ้น ก็มองว่ากำลังซื้อจะกลับมามากขึ้น และในช่วงที่ราคาทองสูงทาง AURA ก็ได้มีการปรับกลยุทธ์เน้นขายทองที่มีขนาดเล็กลง เช่น น้ำหนัก 2 สลึง (50 สตางค์) หรือครึ่งสลึง เป็นต้น เพื่อกระตุ้นยอดขาย และได้มาร์จิ้นสูง หรืออัตรามาร์จิ้นเท่ากับการขายทองน้ำหนัก 1 บาท เนื่องจากมีค่ากำเหน็จเท่ากัน ทำให้กำไรน่าจะยังโตต่อเนื่อง แม้รายได้จะไม่ได้เติบโตมากนัก
ดังนั้น ยังคงแนะนำ "ซื้อ" แม้ว่าจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งที่คนจะกลับมาซื้อทอง แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ซื้อทองเพื่อออมอยู่ ประกอบกับ AURA มีจุดแข็งจากการขยายสาขาได้ดี ทำให้สามารถชิงส่วนแบ่งทางการตลาดกับร้านค้าปลีกตามต่างจังหวัดได้ จากการสร้างแบรนด์ให้มีความน่าเชื่อถือ การขายคืนได้ส่วนลด ได้มาตรฐาน ให้ราคาเป้าหมายที่ 18.43 บาท