นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีรีบาวด์หลังเมื่อวานนี้ปรับตัวลงแรง โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบเริ่มฟื้นตัวขึ้น รวมทั้งวันนี้มีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 67 ของวุฒิสภา
นอกจากนี้คาดหวังการเกิด Window dressing ซึ่งในเชิงของสถิติมากกว่า 70% มีโอกาสเกิดในไตรมาสแรก และปกติจะให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 1.2% ซึ่งทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าวน่าจะช่วยหนุนตลาดให้ฟื้นตัวได้บ้าง
กลยุทธ์ในการลงทุนวันนี้แนะนำ Selective Buy ในกลุ่มค้าปลีกและกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่จะได้ประโยชน์จากงบประมาณรายจ่ายปี 67 และกลุ่มพลังงาน จากราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น
พร้อมทั้งให้กรอบแนวรับ 1,365 จุด และแนวต้าน 1,380-1,385 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (25 มี.ค.)ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 39,313.64 จุด ลดลง 162.26 จุด หรือ -0.41%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,218.19 จุด ลดลง 15.99 จุด หรือ -0.31% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 16,384.47 จุด ลดลง 44.35 จุด หรือ -0.27%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดภาคเช้าที่ระดับ 16,548.50 จุด เพิ่มขึ้น 74.86 จุด หรือ +0.45% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,026.92 จุด เพิ่มขึ้น 0.61 จุด หรือ +0.02% ส่วนดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 40,345.04 จุด ลดลง 69.08 จุด หรือ -0.17%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 มี.ค.) 1,372.49 จุด ลดลง 8.55 จุด (-0.62%) มูลค่าซื้อขาย 41,151.59 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,056.84 ล้านบาท (25 มี.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. (25 มี.ค.) เพิ่มขึ้น 1.32 ดอลลาร์ หรือ 1.64% ปิดที่ 81.95 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 มี.ค.) อยู่ที่ 6.63 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.35 แนวโน้มอ่อนค่า รอลุ้นตัวเลขส่งออกไทยวันนี้
- วานนี้ (25 มี.ค.) "หุ้นไทย" ร่วงต่ำสุดของวัน 12.83 จุด ก่อนปิดที่ 8.55 จุด แตะ 1,372.49 จุด รับตลาดหลักทรัพย์ฯ ขยายเวลาเทรดช่วงบ่ายเร็วขึ้น 30 นาที "บล.หยวนต้า" ชี้ไม่ช่วยหนุนวอลุ่มเทรด เหตุสารพัดปัจจัยลบทั้งในและนอกประเทศฉุด สะท้อนตลาดสหรัฐพักฐาน-เงินเฟ้อบางประเทศเอเชียเร่งตัว-กังวลขัดแย้ง สหรัฐกับจีนแรง ปัจจัยภายในไร้สตอรี่ใหม่ หนุน "ฟันด์โฟลว์" ไหลออก หวังส่งออกไทยขยายตัวเป็นเดือนที่ 7
- จับตาคมนาคมชง ครม.เคาะเดินเครื่องสายสีแดงส่วนขยาย 3 เส้นทาง คาดเปิดประมูลได้ปี 2567 ด้าน รฟม.ฟุ้งม่วงใต้คืบกว่า 28%
- 'ธรรมนัส' เตรียมขอ 33,530 ล้านบาท ทำโครงการ "ปุ๋ยคนละครึ่ง" แจกเกษตรกร 4.68 ล้านครัวเรือน ครัวเรือนละไม่เกิน 1,000 กิโลกรัม
- ตลาดรถยนต์คึกคัก "อีวี" ยึดพื้นที่ บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 45 แห่เปิดตัวแบรนด์ใหม่-รุ่นใหม่ ลงตลาดรับเทรนด์ใช้ชีวิตในเมือง จับตาทางเลือกใหม่ ปิกอัพ ไลฟ์สไตล์ มาแรง ขณะที่ผู้จัดมั่นใจรายได้เพิ่ม 15%
*หุ้นเด่นวันนี้
- SPRC (กรุงศรี) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 10.40 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว และน่าจะพลิกมีกำไรสุทธิได้ตั้งแต่ 1Q67 เป็นต้นไปจาก Crude run ที่เพิ่มขึ้นจาก 88% ใน 4Q66 เป็น 95% ในปัจจุบัน และคาดว่าจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบตามราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเทียบกับ 4Q66 ที่ขาดทุน
- NYT (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 5.25 บาท บริษัทรายงานกำไรสุทธิ ไตรมาส 4/66 ที่ 161 ล้านบาท +30%QoQ, +75%YoY แรงหนุนจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น +9%QoQ, +14%YoY ตามปริมาณรถยนต์ส่งออก-นำเข้ารถยนต์ของไทย และธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าที่มีพื้นที่เช่าใหม่ ประกอบกับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนเพิ่มขึ้นเนื่องจากท่าเรือ C0 ด้านอัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นเป็น 46.6% จากไตรมาส 4/65 ที่ 39.9% รวมทั้งปี 66 บริษัทมีกำไรสุทธิ 501 ล้านบาท +100%YoY ส่วนแนวโน้มปี 67 คาดกำไรยังเติบโตได้ ต่อมีปัจจัยหนุนจากรายได้คลังสินค้าใหม่ที่บ่อวินมีอัตราการเช่าเพิ่มขึ้น ส่วนบริการท่าเทียบเรือเติบโตได้อีกเล็กน้อยจากการนำเข้ารถยนต์ EV ด้านส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนคาดดีขึ้นจากปีก่อนจากท่าเรือ C0 ที่ช่วง 2H67 จะมีการขนส่งสินค้าแท่นจุดเจาะและสินค้าขนาดใหญ่ นอกจากนี้หากพิจารณาหยุดการดำเนินงานของเรือ Ferry Seahorse ที่ขาดทุนต่อเนื่องได้น่าจะเป็น upside ต่อผลประกอบการในอนาคต ทั้งนี้อิงจาก consensus ตลาดคาดกำไรปี 67 ที่ 527 ล้านบาท +5%YoY แม้เติบโตไม่สูงแต่เป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่ดีราว 7.6% (ปันผล 0.36 บาท/หุ้น XD 26 เม.ย.)
- CPALL (ลิเบอเรเตอร์) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 72 บาท คาดแนวโน้ม 1Q67 ยังมีทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง แรงขับเคลื่อนจากพัฒนาการที่ดีขึ้นของการบริโภค และบริษัทลูกทั้ง CPAXT และ Lotus หนุนกำไรปี 67 คาดเติบโต +18%y-y ขณะที่ในระยะสั้นตลาดมีความกังวลต่อการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่มากเกินไป ท่ามกลาง Valuation ของ CPALL ที่ยังเทรดในระดับไม่แพง มองเป็นโอกาสในการทยอยสะสม