ศาลปกครองสูงสุดยืนคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวเบรก "ศุภาลัยลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง" รอผลคำพิพากษา

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday March 28, 2024 19:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งเกี่ยวกับวิธีการชั่วคราวก่อนการพิพากษา ยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นให้ทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ที่เห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง ไว้เป็นการชั่วคราว

"ศาลปกครองสูงสุดจึงมีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองชั้นต้น และมีคำสั่งยกคำขอของผู้ร้องสอดที่ขอให้ระงับคำสั่งทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครองของศาลปกครองชั้นต้นไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะวินิจฉัยคำร้องอุทธรณ์คำสั่ง" คำสั่งศาลปกครองสูงสุด ระบุ

คดีนี้สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกับพวกรวม 18 คน ยื่นฟ้องคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน กรุงเทพมหานคร (กทม.) และ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) เป็นผู้ร้องสอด โดยคัดค้านรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่างว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากการก่อสร้างอาคารตั้งอยู่ในลักษณะทอดตัวยาวจากทิศเหนือไปทางทิศใต้ประมาณ 303.50 เมตร ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมหลายประการ

ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองชั้นต้นมีคำสั่งให้ทุเลาการบังคับตามมติของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ที่เห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการศุภาลัย ลอฟท์ รัชดาฯ-วงศ์สว่าง ไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือคำสั่งเป็นอย่างอื่น ทั้งนี้ผู้ถูกฟ้องคดี และผู้ร้องสอดยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของศาลปกครองชั้นต้นที่ให้ทุเลาการบังคับตามคำสั่งทางปกครอง

ศาลปกครองสูงสุด วินิจฉัยว่า ผลกระทบจากการบดบังแสงแดดที่เกิดจากเงาของอาคารโครงการมีระยะเงาทอดตัวออกไปยาวเกินกว่า 100 เมตร ในหลายช่วงเวลา แต่บริษัทที่ปรึกษาโครงการกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อมเฉพาะในรัศมี 100 เมตร รอบพื้นที่โครงการเท่านั้น อีกทั้งไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ได้พิจารณาและอภิปรายเกี่ยวกับประเด็นผลกระทบด้านการบดบังแสงแดดและทิศทางลม ตลอดทั้งมาตรการต่างๆ ตามที่ได้มีมติให้แก้ไขเพิ่มเติม

ดังนั้น ในชั้นนี้จึงเห็นว่ามติของคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ที่เห็นชอบรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการนี้ในประเด็นการบดบังแสงแดดและทิศทางลมดังกล่าวน่าจะมีปัญหาความชอบด้วยกฎหมาย หาก SPALI นำมติดังกล่าวไปยื่นต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นเพื่อขอให้ออกใบรับแจ้งการก่อสร้างอาคาร ทำให้สามารถดำเนินการก่อสร้างอาคารโครงการนี้ได้อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือความเดือดร้อนรำคาญแก่ผู้ฟ้องคดีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการสั่นสะเทือน ฝุ่นละออง ตลอดระยะเวลาที่ก่อสร้าง

หากต่อมาภายหลังศาลปกครองจะมีคำพิพากษาเพิกถอนมติของผู้ถูกฟ้องคดี ผลของคำพิพากษาดังกล่าวก็ไม่อาจเยียวยาแก้ไขความเสียหายที่ผู้ฟ้องคดีได้รับอันเนื่องจากการบังคับตามผลของมติดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีในระหว่างการพิจารณาให้หมดสิ้นไปได้โดยสิ้นเชิง เนื่องจากผู้ฟ้องคดีได้รับความเสียหายจากการบังคับตามผลของมติดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีไปแล้ว

"การให้มติดังกล่าวของผู้ถูกฟ้องคดีมีผลใช้บังคับต่อไป ย่อมทำให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ผู้ฟ้องคดีที่ยากแก่การเยียวยาแก้ไขในภายหลัง" คำสั่งศาลปกครองสูงสุด ระบุ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ