ผู้บริหาร บมจ.สบาย เทคโนโลยี (SABUY) ยอมรับว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ถูกบังคับขาย (Force sell) ทำราคาหุ้นดิ่งหนักลงฟลอร์เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน และยังไม่รู้ว่าจะมีการขายออกมาอีกหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องของผู้ถือหุ้น
ขณะที่ธุรกิจของบริษัทยังเกินหน้าต่อไป โดยมั่นใจว่าปีนี้ผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไร ซึ่งบริษัทจะมองหาพันธมิตรเข้าร่วมธุรกิจเพิ่มเติม หลังจากล่าสุดได้ร่วมมือกับ บมจ.มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MGI) ที่เข้ามาร่วมทุน ด้วยการซื้อน้ำพริกนางงามของ MGI ในราคาขายส่งรวม 1 แสนกระปุกแรกเพื่อนำไปจำหน่ายผ่านตู้ขายสินค้าของบริษัทตั้งแต่เดือนนี้ และจะมองหาสินค้าใหม่เข้ามาขายเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
ส่วนภาระหนี้ที่บริษัทจะต้องไถ่ถอนหุ้นกู้ราว 1.5 พันล้านบาทในช่วงปลายปีนี้ อาจพิจารณาขายสินทรัพย์และขายเงินลงทุนบางส่วนเพื่อหาสภาพคล่องมาสำรองไว้
นายวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABUY เปิดเผยว่า จากสถาการณ์ราคาหุ้น SABUY ที่ปรับตัวลดลงสู่ราคา Floor 2 วันติดต่อกัน ยอมรับว่าเป็นผลมาจากการที่ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SABUY ถูก Force sell ออกมา เนื่องจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SABUY มีพอร์ตลงทุนด้วยบัญชีมาร์จิ้น จึงเกิดผลกระทบต่อราคาหุ้นของ SABUY ปรับลงแรงต่อเนื่อง และยังไม่ทราบว่ายังมีการถูก Force sell เพิ่มอีกหรือไม่ จึงไม่สามารถประเมินผลกระทบของราคาหุ้น SABUY ทั้งหมดได้
สำหรับการเข้ามาถือหุ้นของ MGI สัดส่วน 1.7% ใน SABUY เป็นการที่ได้พันธมิตรเข้ามาเสริศักยภาพในด้านการมีสินค้าใหม่ๆที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน รวมถึงการที่ MGI จะเข้ามาเสริมในด้านการตลาดให้กับ SABUY ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทมีความต้องการในการหาพันธมิตรที่มีความสามารถด้านการทำการตลาดเข้ามาช่วยสนับสนุนการดำเนินธุรกิจให้กับ SABUY ทำให้เป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ SABUY เปิดโอกาสให้เข้ามามีส่วนร่วม
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังเล็งเห็นถึงการหาเงินทุนเข้ามาให้กับ SABUY หลังจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีการลงทุนและกู้ยืมเงินรวมไปกว่า 1.3 หมื่นล้านบาท และจะมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระคืนในปลายปีนี้อีก 1.5 พันล้านบาท ทำให้บริษัทต้องเร่งการเตรียมความพร้อมหาเงินลงทุน โดยที่จะมีการเปิดทางให้มีพันธมิตรใหม่เข้าถือหุ้นในบริษัทย่อยของ SABUY เพิ่มเติม ซึ่งเป็นการขายเงินลงทุนในบริษัทย่อยที่ลงทุนออกไปบางส่วน เช่น บริษัทที่ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล เป็นต้น ประกอบกับการพิจารณาขายสินทรัพย์บางส่วนออกไป เช่น อาคาร ที่ดิน ที่ได้มาจากการลงทุนในบริษัทต่างๆ เป็นต้น ทำให้บริษัทมีเงินลงทุนรองรับการชำระคืนหนี้
โดยหุ้นกู้ที่ครบกำหนด 1.5 พันล้านบาท ปลายปีนี้ บริษัทจะไม่ออกหุ้นกู้ชุดใหม่มาทดแทนหุ้นกู้ชุดเดิม เพราะสภาพตลาดหุ้นกู้ในปัจจุบันยังไม่เอื้ออำนวย นักลงทุนยังขาดความมั่นใจ ประกอบกับข่าวและราคาหุ้น SABUY ก็มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน รวมถึงสถาบันการเงินที่อาจจะไม่มั่นใจบริษัท ทำให้บริษัทตัดสินใจหาเงินมาชำระคืนผู้ถือหุ้นกู้ที่ครบกำหนดทั้งหมด ซึ่งปัจจุบัน SABUY มีเงินหมุนเวียนในบริษัทเฉลี่ย 100 ล้านบาท/เดือน
ด้านผลการดำเนินงานของ SABUY ในปี 67 มั่นใจว่าจะพลิกกลับมามีกำไรได้ โดยคาดว่าจะเห็นการพลิกกลับมามีกำไรในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ตามแนวโน้มเศรษฐกิจฟื้นตัวได้ดีขึ้นจากงบประมาณภาครัฐที่จะออกมา ทำให้รายได้คนในประเทศเพิ่มขึ้น ส่งผลบวกต่อการจับจ่ายใช้สอยและการบริโภค หนุนยอดขายสินค้าในตู้ Vending ของบริษัท รวมถึงการที่มีสินค้าน้ำพริกนางงามของ MGI เข้ามาจำหน่าย จะช่วยสร้างยอดขายให้ตู้ Vending ของบริษัทให้เพิ่มขึ้น โดยเซ็นสัญญาซื้อน้ำพริกนางงาม 100,000 กระปุก โดยล็อตแรก MGI ส่งมอบน้ำพริกน้ำงามให้กับ SABUY แล้ว 5,000 กระปก ราคาขายผ่านตู้ 299 บาท