นายสุรพงษ์ สาเรชพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บีพีเอส เทคโนโลยี (BPS) เปิดเผยว่า การที่ทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน กองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs ผู้ถือหุ้นเดิม และนายรัชต์ชยุตม์ จีระพรประภา หรือ หมอวิน นักลงทุนรายใหญ่ขายหุ้น BPS ตั้งแต่วันแรกที่เข้าซื้อขายหุ้นนั้น เป็นการขายหุ้นทำกำไรตามกลไกตลาดและราคาหุ้น ซึ่งมองว่าเป็นเรื่องปกติของการลงทุน
กองทุน SMEs มีนโยบายในการลงทุนและเป้าหมายที่ชัดเจน และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกองทุนที่เข้าร่วมลงทุนเมื่อเห็นโอกาสในกลุ่มบริษัทสตาร์ทอัพ เพื่อให้ทุนสนับสนุนกิจการและเมื่อบริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ตามแผนแล้ว ก็จะถอนการลงทุนไปยังบริษัทอื่นเพื่อสร้างผลตอบแทนต่อไป
"การขายหุ้นของกองทุนและนักลงทุนรายใหญ่ อาจจะส่งผลกระทบทางจิตวิทยาบ้าง แต่ยังเชื่อมั่นว่านักลงทุนยังมองเห็นโอกาสการลงทุนใน BPS ที่เป็นหุ้นในกลุ่มนวัตกรรมด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม พร้อมทั้งมีโอกาสและการเติบโตในอนาคต จากการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และความหลากหลายให้กับผู้อยู่อาศัย" นายสุรพงษ์ กล่าว
สำหรับคาดการณ์ผลการดำเนินงานปี 67 บริษัทตั้งเป้ารายได้โตไม่น้อยกว่า 20% จากการขยายธุรกิจการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคาสำหรับลูกค้าอสังหาริมทรัพย์แนวราบและโรงงาน รวมถึงองค์กรภาคเอกชน ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าให้ความสนใจจำนวนมาก
รวมไปถึงการนำเสนอนวัตกรรม Green Home Solutions เพื่อตอบสนองความต้องการและตอบโจทย์เทรนอสังหาริมทรัพย์ยุคใหม่ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้อยู่อาศัยในทุกๆด้าน เช่น อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง บ้านประหยัดพลังงาน ตลอดจนตลาดบ้านมือสองและกลุ่มประชากรผู้สูงวัยที่ต้องการปรับปรุงบ้านพักอาศัยให้เหมาะสมกับการใช้งานปัจจุบัน ให้สอดคล้องกับแนวคิด SMART HOME เช่น การติดตั้งโรงรถ (Garage Roof) การติดตั้งระบบระบายอากาศ (Airflow) และการติดตั้งเครื่องชาร์จไฟฟ้า (EV Charger) ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง