บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์ถัดไป (17-19 เม.ย.) มีแนวรับที่ 1,385 และ 1,375 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,405 และ 1,415 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ทิศทางเงินทุนต่างชาติ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้าน ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
ขณะที่ปัจจัยเศรษฐกิจต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมี.ค.ของญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ ตลอดจนตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/67 และข้อมูลเศรษฐกิจเดือนมี.ค. ของจีน อาทิ ยอดค้าปลีก ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร
โดยในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีหุ้นไทยขยับขึ้นจากสัปดาห์ก่อน แต่ย่อตัวปิดต่ำกว่า 1,400 จุดก่อนวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ หุ้นไทยดีดตัวขึ้นแรงช่วงต้นถึงกลางสัปดาห์ โดยแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือน ที่ระดับ 1,411.46 จุด ท่ามกลางแรงซื้อสุทธิของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ประกอบกับมีปัจจัยบวกจากข่าวการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ซึ่งกระตุ้นแรงซื้อหุ้น โดยเฉพาะกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีก ที่น่าจะได้รับอานิสงส์จากมาตรการภาครัฐโดยตรง
อย่างไรก็ดี หุ้นไทยย่อตัวลงบางส่วนในเวลาต่อมาตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ซึ่งส่วนใหญ่ปรับตัวลงท่ามกลางความกังวลว่า เฟดจะยืนดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับสูงเป็นเวลานาน หลังตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมี.ค.ของสหรัฐฯ ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ ประกอบกับน่าจะมีแรงขายเพื่อปรับโพสิชั่นก่อนวันหยุดยาวของตลาดในประเทศ อนึ่ง หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวขึ้นสวนทางภาพรวม หลัง คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมรอบล่าสุด
โดยในวันพฤหัสบดีที่ 11 เม.ย. 67 ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,396.38 จุด เพิ่มขึ้น 1.51% จากระดับปลายสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 45,261.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36.99% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai เพิ่มขึ้น 1.35% มาปิดที่ระดับ 400.08 จุด