นายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เทอร์ราไบท์ พลัส (TERA) เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมเต็มที่ในการนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก 24 เม.ย.นี้ โดยภายหลังจากเข้าตลาด mai คาดว่ารายได้ปี 67 จะเติบโตราว 10% ขณะที่กำไรคาดว่าจะเติบโตได้มากกว่ารายได้ เป็นไปตามการขยายตัวของ 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่
1. กลุ่มธุรกิจบริการระบบเก็บข้อมูลและประมวลผลระบบสารสนเทศบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และบริการในรูปแบบสมาชิกแบบต่อเนื่อง (Cloud & Recurring Services)
2. กลุ่มธุรกิจจัดจำหน่ายโซลูชั่นและให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ (On-Premise Hardware & Cyber Security)
3. กลุ่มธุรกิจระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการ การขนส่งกระจายสินค้าและโลจิสติกส์ (Transportation Management System:TMS) ภายใต้ตราสินค้า "Skyfrog"
4. กลุ่มธุรกิจการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)
พร้อมกันนั้น บริษัทยังมองการเติบโตธุรกิจผ่านการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่มีความเกี่ยวน้องในด้าน ICT โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจา 2-3 ราย ซึ่งในส่วนนี้จะเข้ามาเสริมรายได้จากการให้บริการ วางงบลงทุนไว้ราว 70 ล้านบาท
ปัจจุบัน TERA มีสัดส่วนรายได้จากการขาย ประมาณ 50% ของรายได้รวม และรายได้จากการให้บริการ ราว 49.4% โดยตั้งเป้าภายใน 3 ปี จะเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวเป็น 70% ที่เหลือมาจากรายได้อื่นๆ
นอกจากนี้ บริษัทยังได้ปัจจัยหนุนจากแนวโน้มอุตสาหกรรม ICT ในประเทศไทย ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระบบคลาวด์ที่มี Market size เติบโตถึง 48,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโตปีละ 20% ส่วนทิศทางด้านความปลอดภัยข้อมูล ก็มีความจำเป็นมากขึ้น อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีจุดแข็งจากการมีพาร์ทเนอร์รายใหญ่ที่พาเข้าไปรับงาน ซึ่งมีอัตราการชนะงาน (Win Rate) สูงถึง 90%
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้จะนำไปใช้ 1. ลงทุนในระบบ Cloud หรือ T.Cloud Generation ที่ 3 เพื่อรองรับความต้องการใช้งานที่มีเป็นจำนวนมาก และเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ T.Cloud Generation 1 และ Generation 2 ปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าปัจจุบันที่ใช้บริการ T.Cloud มากกว่าร้อยสัญญา ใช้เงินลงทุนเริ่มต้นในปี 67 ประมาณ 60 ล้านบาท
2. ซื้อกิจการ (M&A) ในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในด้าน ICT ประมาณ 70 ล้านบาท
3. ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนภายในกิจการ
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ TERA กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าหุ้น TERA จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องด้วย TERA ถือเป็นบริษัทที่มีรายได้ส่วนใหญ่เป็นรายได้ประจำ, อยู่ในเทรนด์การเติบโตของโลก และมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง หรือไม่มีหนี้สิน
การระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยขับเคลื่อนให้ TERA เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากที่ผ่านมาเติบโตแบบ Organic รวมถึงมองว่การที่อยู่ภายใต้บริษัทแม่อย่าง บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX) และ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) คาดจะช่วยสนับสนุนการเติบโตในแง่ของโอกาสการได้รับงานเข้ามามากขึ้น
ด้านราคาหุ้น IPO ที่ 1.75 บาท/หุ้น ถือว่ามีส่วนลด (Discount) กว่า 30% จากราคาประเมินของนักวิเคราะห์ในช่วง 2.2-2.7 บาท/หุ้น
ขณะที่ภาวะตลาดหุ้นในช่วงนี้ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่สงบในตะวันออกกลาง มองอาจกระทบบรรยากาศการลงทุนในตลาดบ้าง แต่มั่นใจว่าไม่มีผลกระทบต่อตัวธุรกิจโดยตรง เนื่องจากเป็นธุรกิจเทคโนโลยี ซึ่งในภาวะสงครามที่หนุนให้ต้นทุนขนส่งสูงขึ้นมองว่าเทคโนโลยีของ TERA จะเข้ามาตอบโจทย์ได้ทันทีหนุนการเติบโตมากขึ้น