CONSENSUS: ดักเก็บ HMPRO รับกำลังซื้อฟื้นชัดครึ่งปีหลัง-Digital Wallet

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 17, 2024 17:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เชียร์ "ซื้อ" หุ้น บมจ.โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ (HMPRO) แม้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 อาจยังเติบโตไม่มาก แต่ทิศทางยอดขายมีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีมากในช่วงครึ่งปีหลังจากกำลังซื้อที่ได้แรงหนุนจาก Digital Wallet และการใช้จ่ายของภาครัฐ นอกจากนี้ ยังมีแผนขยายสาขาในปีนี้ต่อเนื่อง ประกอบกับราคาหุ้นยังมี Upside

ราคาหุ้น HMPRO บ่ายวันนี้อยู่ที่ 10.50 บาท

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ          ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          ยูโอบีเคย์เฮียนฯ           ซื้อ                 15.70
          กรุงศรี พัฒนสิน            ซื้อ                 15.00
          ทรีนีตี้                   ซื้อ                 15.00
          ทิสโก้                   ซื้อ                 14.10
          ซีจีเอส อินเตอร์ฯ          ซื้อ                 14.00
          เอเอสแอล           Outperform             13.70
          เคจีไอ                  ซื้อ                 13.00

นักวิเคราะห์จาก บล.กรุงศรี พัฒนสิน มองว่า HMPRO แม้ว่าผลประกอบการ (Earning) ในไตรมาส 1/67 อาจไม่โดดเด่น เพราะกำลังซื้อลดลงเห็นได้ชัดหลังจบมาตรการ Easy e-Receipt ยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ติดลบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดย HMPRO ติดลบ 2% และ Mega Home ติดลบ 5% ทำให้กำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้นเพียง 2% มาที่ 1,640 ล้านบาทจากไตรมาส 1/66 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/66 ก็ลดลงเช่นกัน

อย่างไรก็ดี ภาพรวมในไตรมาส 1/67 ไม่ได้เหนือความคาดหมาย แต่คาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวได้ดีในช่วงครึ่งปีหลังที่จะเห็นการใช้จ่ายของภาครัฐหลังจากสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ กำลังซื้อฟื้นตัว โดยงบประมาณรายจ่ายของภาครัฐน่าจะเห็นออกมามากในปลายไตรมาส 2/67 และน่าจะเห็นเร่งตัวขึ้นอีกในไตรมาส 3/67 ประกอบกับ ไตรมาส 4/67 จะได้รับแรงหนุนจาก Digital Wallet ที่จะช่วย HMPRO ทางอ้อมที่จะมีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ ปี 67 คาดว่า HMPRO มีกำไรสุทธิ 6,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปี 66 ที่มีกำไร 6,400 ล้านบาท แนะ "ซื้อลงทุน" มองราคาหุ้นในปัจจุบันค่อนข้างถูก P/E 21 เท่าถูกที่สุดในกลุ่ม เทียบกับ DOHOME 33 เท่า และ GLOBAL 27 เท่า เป็นจังหวะที่จะเข้าเก็บรอการฟื้นตัวครึ่งปีหลัง

ขณะที่ บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดว่ากำไรของ HMPRO ในไตรมาส 1/67 เพิ่มขึ้นทั้ง YoY และ QoQ แต่ประมาณการกำไรเต็มปีนี้ของเราในปัจจุบันมี Upside จำกัด คงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายปลายปี 67 เดิมที่ 13.00 บาท อิงจาก PER ที่ 24.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่างหุ้นกลุ่มนี้ในประเทศและต่างประเทศ-2.0 S.D.)

คาด HMPRO จะรายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1/67 ที่ 1.7 พันล้านบาท (+6% YoY และ +2% QoQ) หนุนจากยอดขายที่ดีขึ้นทั้ง YoY และ QoQ กำไรในไตรมาส 1/67 คิดเป็น 24% ของประมาณการกำไรเต็มปีของเรา

สัญญาณบางอย่างชี้ว่ามีความเป็นได้ที่อุปสงค์จะเพิ่มขึ้นจาก 1) ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค(CCI) อยู่ที่ 63.0 ในเดือนมี.ค.67 ฟื้นตัวต่อเนื่องจาก 40.2 ในเดือน พ.ค.65 และใกล้เคียงค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 67.6 2) การเข้าสู่ฤดูร้อนด้วยอุณหภูมิที่ 43-44.5 องศา C และคาดว่าอุณหภูมิจะสูงขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยช่วงเดือนมี.ค.และพ.ค. 67 ราว 0.5-1.9 องศา C และ 3) ผลบวกจากแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐ (easy e-receipt) ช่วงวันที่ 1 ม.ค.-15 ก.พ.67

ปัจจัยดังกล่าวช่วยชดเชยบางส่วนกับ sentiment การจับจ่ายใช้สอยที่อ่อนแอ และ ทำให้ยอดขายสาขาเดิม (SSS: same store sales) ในไตรมาส 1/67 ลดลงเป็นเลขหลักเดียว (เทียบกับ +5.8% ใน Q1/66 และ -8.5% ใน Q4/66) เมื่อรวมกับผลของการขยายสาขา (มี 128 สาขา ณ สิ้นงวด Q1/67 เทียบกับ 120 สาขา สิ้นงวด Q1/66) เราประเมินว่า HMPRO จะรายงานยอดขายรวมในในไตรมาส 1/67 ที่ 1.8 หมื่นล้านบาท (+7% YoY และ +9% QoQ)

เราคาด HMPRO จะมีอัตรากำไรขึ้นต้นในไตรมาส 1/67 อยุ่ที่ 26.0% (-10bps YoY และ -130bps QoQ) เทียบกับสมมติฐานปี 67 ของเราในปัจจุบันอยู่ที่ 26.8% โดยอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะอ่อนตัวจาก i) ปัจจัยฤดูกาล, ii) สัดส่วนของ product mix (อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า) และ iii) ส่วนผสมของยอดขาย (ยอดขายจาก Mega Home มากขึ้น)

ทั้งนี้ อัตรากำไรขั้นต้นของร้านรูปแบบ Mega Home ต่ำกว่ารูปแบบ HomePro ราว 3-4% โดย ณ สิ้นงวดไตรมาส 1/ 66 มีร้านรูปแบบ Mega Home อยู่ที่ 15 ร้าน และเพิ่มเป็น 21 ร้าน ณ สิ้นงวดไตรมาส 1/67

สำหรับสัดส่วน SG&A ต่อยอดขายในไตรมาส 1/67 น่าจะลดลงอยู่ที่ 18.4% (เทียบกับ 18.5% ใน 1Q66 และ 20.8% ใน 4Q66) เนื่องจากค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคต่ำลง (ค่าไฟฟ้า (electricity tariff) ลดลง 20% YoY โดยค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคคิดเป็น 1-2% ของยอดขายรวม)

ทั้งนี้ ยังคงคาดว่ากำไรมีโมเมนตัมเชิงบวกในครึ่งหลังปี 67 ด้วยแรงหนุนจาก sentiment และกำลังซื้อของผู้บริโภคดีขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจการมากขึ้นหลังจากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่สำเร็จ แต่อย่างไรก็ตาม เรามองว่าประมาณการกำไรปี 2567F ในปัจจุบันของเรายังคงมี upside จำกัด

คงคำแนะนำ "ซื้อ" HMPRO และคงราคาเป้าหมายสิ้นปี 67 ที่ 13.00 บาทอิงจาก PER ที่ 24.0x (ค่าเฉลี่ยในอดีตระหว่างหุ้นกลุ่มนี้ในประเทศและต่างประเทศ-2.0 S.D.) หรือเท่ากับ PEG ที่ 2.4x บน EPS ปี 2567

ด้าน บล.เอเอสแอล คาดว่าผลประกอบการ HMPRO ในไตรมาส 1/67 มีรายได้จากการขายและค่าเช่า 1.8 หมื่นล้านบาท (+3.5%YoY,+5.4%QoQ) รายได้เติบโตด้วยแรงหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ในปี 66 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะ Mega Home ที่เปิดสาขาใหม่ถึง 9 แห่ง แม้ว่ายอดขายจากสาขาเก่า (SSSG) จะติดลบ 2-3%YoY

อัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยลดลงเป็น 27.1% จากไตรมาส 4/66 ที่ 28.3% และทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/66 ที่ 27% เนื่องจากยอดขายมาจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำได้ดี ได้ประโยชน์จากนโยบายรัฐ E-Receipt ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ไม่สูง ขณะเดียวกันยอดขายจาก Mega-Home ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นน้อยกว่า HMPRO จากสาขาใหม่ทำได้ดี

ค่าใช้จ่ายขายและบริหาร 3.3 พันล้านบาท (+4.7%YoY,-4.7%QoQ) ลดลง QoQ เนื่องจากในไตรมาส 4/66 มีการจัดกิจกรรมทางการตลาด และมีการปรับปรุงค่าใช้จ่ายบางรายการทำให้มีค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่สูง คาดบริษัทมีกำไรปกติที่ 1.7 พันล้านบาท (+6.7%YoY,+2.5%QoQ) เติบโตดี ได้ปัจจัยหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่ลดลงเมื่อเทียบกับ QoQ

HMPRO คงแผนการขยายสาขา Size ใหญ่เพิ่ม คาดเปิดสาขาใหม่ในปี 67 จำนวน 4 สาขา และ Mega Home จำนวน 4 สาขา โดยส่วนใหญ่เปิดสาขาในช่วง H2/67 มองแผนการขยายสาขา Maga Home ที่ต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการสินค้าวัสดุก่อสร้างที่มากขึ้น โดยเฉพาะสาขาในต่างจังหวัด คาดได้รับการตอบรับดีในอนาคตโดย ณ สิ้นปี 67 บริษัทจะมี HMPRO จำนวน 93 สาขา Mega-Home จำนวน 31 สาขา และ Homepro S 5 สาขา

คาด SSSG ในไตรมาส 1/67 ของ Homepro -2-3% YoY และ Mega Home -5%YoY ผลกระทบของ SSSG เกิดจากกำลังซื้อที่ลดลง และฐานสูง ขณะที่ได้ประโยชน์บางส่วนจากมาตรการ Easy E-receipt ทำให้ SSSG เฉพาะในเดือน ก.พ.+4%YoY ทั้งนี้เราคาด SSSG ใน Q2/67 จะได้ประโยชน์จากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งเป็นสินค้าบรรเทาอากาศร้อน และ PM2.5 จะเป็นส่วนช่วยหนุนยอดขายระหว่างไตรมาส ขณะเดียวกันใน H2/67 ยอดขายได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐทั้งจาก Digital wallet มาตรการกระตุ้นอสังหาฯ รวมถึงการเริ่มใช้งบประมาณปี 67 ของรัฐช่วยหนุน คาด SSSG พลิกกลับมาเป็นบวกได้คาด +3%YoY

แนะนำ "ซื้อ" ประเมินราคาเหมาะสมปี 67 ที่ 13.70 บาทต่อหุ้น ด้วยวิธี DCF ( WACC 6.4% ,TG 2%) ปัจจุบัน HMPRO ซื้อขายระดับ PE ที่ -2SD ที่ 22 เท่า ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 33 เท่า คาดแนวโน้มผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องได้ประโยชน์จากมาตรการรัฐและการกลับมาของนักท่องเที่ยวช่วยหนุนกำลังซื้อ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ