SET ปิดเช้าวันนี้ที่ระดับปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,361.02 จุด ลดลง 5.92 จุด (-0.43%) มูลค่าซื้อขาย 53,907.55 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีปรับตัวลงสวนทางกับตลาดภูมิภาค โดยตลาดบ้านเราขาดปัจจัยบวกใหม่หนุน รวมทั้งอยู่ในช่วงขาลงรอโอกาสเทิร์นอะราวด์ โดยวันนี้แรงกดดันหลักมาจากกลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และการเกษตร แนวโน้มพรุ่งนี้คาดดัชนีมีโอกาสเคลื่อนไหวคล้ายวันนี้ ให้กรอบแนวรับ 1,350 จุดและแนวต้าน 1,372 จุด
SET ปิดวันนี้ที่ 1,361.02 จุด ลดลง 5.92 จุด (-0.43%) มูลค่าการซื้อขาย 53,907.55 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีแกว่งไซด์เวย์ทำจุดต่ำสุด 1,349.00 จุด และจุดสูงสุดที่ 1,372.99 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้เพิ่มขึ้น 186 หลักทรัพย์ ลดลง 276 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 195 หลักทรัพย์
นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.กรุงไทย เอ็กซ์สปริง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงสวนทางกับตลาดหุ้นภูมิภาค แม้ช่วงเช้าจะปรับขึ้นสอดคล้องกับภูมิภาคแต่ยังขาดปัจจัยบวกใหม่หนุน วานนี้นักลงทุนต่างชาติ Short sell กว่า 9 หมื่นสัญญา ทำให้อยู่ในโหมด wait & see รวมทั้งตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาลงรอโอกาสเทิร์นอะราวด์ โดยระหว่างวันในภาคบ่ายดัชนีลงไปทดสอบแนวรับสำคัญหลุด 1,350 จุดเล็กน้อยก่อนเด้งกลับ
หุ้นที่ลงหนักถ่วงตลาดวันนี้ ได้แก่ กลุ่มพลังงาน ปิโตรเคมี และกลุ่มเกษตร โดยกลุ่มพลังงานปรับลงแรงหลังราคาน้ำมันดิบร่วง ขณะที่สถานการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางอาจจะไม่ได้ขยายวงออกไปอย่างที่กังวล
แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันพรุ่งนี้คาดว่าจะมีลักษณะคล้ายวันนี้ ปัจจัยในประเทศยังต้องติดตามโมเมนตัมจากรัฐบาล ให้กรอบดัชนีแนวรับ 1,350 จุด และแนวต้าน 1,372 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,106.28 ล้านบาท ปิดที่ 34.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,528.75 ล้านบาท ปิดที่ 159.00 บาท ลดลง 5.00 บาท
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,149.83 ล้านบาท ปิดที่ 28.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,099.28 ล้านบาท ปิดที่ 55.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,035.26 ล้านบาท ปิดที่ 126.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท