นักวิเคราะห์ ฯ ระบุแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับลงามต่างประเทศกังวลสถานการณ์ตึงเครียดตะวันออกกลางจากอิสราเอลเปิดฉากโจมตีรอบใหม่ แต่ราคาน้ำมันพุ่งอาจช่วยพยุงตลาดบ้านเราไว้ได้ระดับหนึ่ง ดัชนี SET อยู่ในช่วงประคองฐานแนวรับสำคัญที่ 1,350 จุด หลังจากตอบรับปัจจัยลบทั้งต่างประเทศและในประเทศไปมากแล้ว ให้แนวรับ 1,349-1,340 จุด และแนวต้าน 1,373-1,380 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.กรุงศรี พัฒนสิน คาดว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้น่าจะปรับตัวลงตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบทั้งหมด หลังจาก Bloomberg รายงานว่าเกิดเสียงระเบิดรุนแรงในเขตเมือง Isfaran ของประเทศอิหร่าน และจุดอื่นๆในประเทศอิรักและซีเรีย เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง +3% ในช่วงเช้าแตะระดับ 90 เหรียญ/บาเรลล์อีกครั้ง เช่นเดียวกับราคาทองคำ +1.2% สู่ระดับ 2,426 เหรียญ/ออนซ์ ทั้งนี้ยังไม่มีรายงานอย่างเป็นทางการถึงสาเหตุของการระเบิดดังกล่าวว่าเป็นการโจมตีจากฝ่ายใด ¶
ข่าวดังกล่าวมองเป็นจิตวิทยาลบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก แต่ด้วยราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นตัวมา คาดเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นกลุ่มพลังงานบ้านเรา ขณะเดียวกันก็จะกระทบต่อหุ้นอิงการค้าระหว่างประเทศ แนะนักลงทุนติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิดว่าจะลุกลามบานปลายหรือไม่ และหากดัชนีย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ 1,349-1,340 จุดให้ตั้งรับได้ โดยให้อิงหุ้นกลุ่มในประเทศเป็นหลัก (Domestic play) ¶
ให้แนวรับที่ 1,349-1,340 จุด และแนวต้าน 1,373-1,380 จุด
ขณะที่นายชาญชัย พันทาธนากิจ ผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงประคองฐานแนวรับ 1,350 จุด หลังวานนี้ปรับลงสวนทางกับตลาดภูมิภาค จากแรงขายกลุ่มพลังงาน และปิโตรฯ รวมทั้งโบรกต่างชาติปรับเป้าหมายดัชนีหุ้นไทยปี 67 ลงมา แต่ก็มองว่าดัชนีปรับตัวลงตอบรับปัจจัยลบไปมากแล้วแรงกดดันน่าจะเบาลง
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ยังกดดันตลาดหุ้นไทยวันนี้คือความกังวลเฟดลดดอกเบี้ยช้ากว่าคาด หลังจากวานนี้คณะกรรมการเฟดจำนวนหนึ่งออกมาให้ความเห็นตรงกันว่ายังไม่เห็นสัญญาณการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเท่าไรนัก ซึ่งการลดดอกเบี้ยช้ากดดันหุ้นกลุ่ม Yield-Sensitive แต่ตลาดก็น่าจะ Price in ประเด็นดังกล่าวไปพอสมควรเช่นกัน
ขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อวานนี้ส่วนใหญ่กลุ่ม Tech ปรับลง แต่หุ้นกลุ่ม Value เริ่มมีสัญญาณบวก ซึ่งน่าจะทำให้แรงกดดันที่เชื่อมโยงกับตลาดหุ้นไทยน้อยลง เนื่องจากโครงสร้างตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่เป็นหุ้นกลุ่ม Value มากกว่า
สำหรับปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตามการรายงานผลประกอบการของหุ้นกลุ่มธนาคาร อาทิ TTB และ SCB
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (18 เม.ย.67) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,775.38 จุด เพิ่มขึ้น 22.07 จุด หรือ +0.06%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,011.12 จุด ลดลง 11.09 จุด หรือ -0.22% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,601.50 จุด ลดลง 81.87 จุด หรือ -0.52%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 37,724.47 จุด ลดลง 355.23 จุด หรือ -0.93% และในเวลาต่อมา ดัชนีนิกเกอิได้ปรับตัวลดลงกว่า 3% ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 16,246.34 จุด ลดลง 139.53 จุด หรือ -0.85% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดตลาดที่ระดับ 3,060.30 จุด ลดลง 13.92 จุด หรือ -0.45%
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (18 เม.ย.67) 1,361.02 จุด ลดลง 5.92 จุด (-0.43%) มูลค่าซื้อขาย 53,907.55 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 310.84 ล้านบาท (18 เม.ย.67)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.(18 เม.ย.67) เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.05% ปิดที่ 82.73 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (18 เม.ย.67) อยู่ที่ 4.36 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิดวันนี้ 36.89 อ่อนค่ารับความกังวลตะวันออกกลางตึงเครียด
- ททท.งัดกลยุทธ์ "เฟสติวัล อีโคโนมี" ปลุกท่องเที่ยวไทยไตรมาส 2-4 หนุนเป้าทัวริสต์ต่างชาติ 38-40 ล้านคน หลังช่วงพีคเทศกาลสงกรานต์ สะสมเฉียด 11 ล้านคน เร่งปั๊มยอดจีนเที่ยวไทยลุยจัดอีเวนต์ "หนีห่าว เฟสติวัล" ร่วมฉลองโกลเด้นวีควันชาติจีน 1 ต.ค. ดันนักท่องเที่ยวจีน 8 ล้านคน พร้อมผนึก Klook แพลตฟอร์มท่องเที่ยวออนไลน์โปรโมตซอฟต์พาวเวอร์ 5F ดึงตลาดอาเซียน เอเชียใต้ โอเชียเนีย
- คลัง ยืนยันใช้เงิน ธ.ก.ส.แจกดิจิทัลวอลเล็ต 1.72 แสนล้าน เป็นไปตามกฎหมาย ไม่ใช่การกู้เงิน "กฤษฎีกา" ชี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง สหภาพฯ ธ.ก.ส.ส่งหนังสือ 4 หน่วยงาน "ธปท.-สศค.-สคร.-กฤษฎีกา" เคลียร์ปมใช้เงินแบงก์ "ธีระชัย" ชี้อาจถึงทางตัน เสี่ยงขัดกฎหมายตั้งธนาคาร หากอนุมัติบอร์ดต้องรับผิดชอบ
- กบน.ใช้กลไกกองทุนน้ำมันฯ พยุงราคาดีเซล หลังมาตรการลดภาษีสรรพสามิตลิตรละ 1 บาท สิ้นสุด 19 เม.ย.67 เผยล่าสุดกองทุนติดลบ 103,620 ล้านบาท ด้าน ครม.รับทราบกรณีกระทรวงพลังงานออกประกาศแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาน้ำมัน-LPG
- ครม.เห็นชอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 จำนวน 3,752,700 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2567 จำนวน 272,700 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.84% ประกอบด้วย รายจ่ายประจำ 2,704,574 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 72.07% ของวงเงินงบประมาณ รายจ่ายเพื่อชดใช้เงินคงคลัง ไม่มีรายการที่ต้องเสนอตั้งงบประมาณ โดยในปีงบประมาณ 2567 ตั้งไว้ 118,361 ล้านบาท ส่วนรายจ่ายลงทุน 908,223 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 24.20% ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายชำระคืนต้นเงินกู้ 150,100 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 4% ของวงเงินงบประมาณ
- หุ้นไทยรูดต่อเนื่อง! ตื่นข่าว "เจพีมอร์แกน" ปรับลดเป้า SET เหลือแค่ 1,500 จุด จากเดิม 1,700 จุด อัพไซด์เหลือ 10% ส่วนดัชนี MSCI Thailand ลดเหลือ 500 จุด จากเดิม 550 จุด เหตุกิจกรรมเศรษฐกิจอ่อนแอ ลดทอนโอกาสการลงทุน "กรภัทร" มองไม่น่าเป็นห่วง เพราะยังคงคำแนะนำ BUY เพียงแต่ลดอัพไซด์ของเป้าดัชนีลงเท่านั้น
- ครม.รับทราบให้สภาผู้แทนราษฎรศึกษาแก้ไขกฎหมายป้องกันฉ้อโกงของบจ. ในตลาดทุน ยกระดับกำกับดูแล เดินหน้าให้อำนาจสภาวิชาชีพลงดาบสำนักบัญชี-ผู้สอบ เพิ่มมาตรการยึดทรัพย์ กองทุนชี้เป็นเรื่องดีแต่ต้องเข้ม สกรีนบจ.-เอาผิดผู้สอบบัญชี-กระบวนการกฎหมาย ต้องเร็วเด็ดขาด ด้าน PwC หนุนติดอาวุธสภาวิชาชีพ
*หุ้นเด่นวันนี้
- ITC (พาย) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 23.60 บาทผลประกอบการงวดไตรมาส 1/67 คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบตถึง 64%YOY หลังจากลูกค้าร้ายใหญ่กลับมาสั่งสินค้าตามปกติจากที่เคยมีปัญหาสต๊อกล้นในช่วงต้นปี 66 รวมถึงการปรับรูปแบบสินค้าใหม่ของ ITC ที่ทำให้มีปริมาณขายเพิ่มขึ้นมาชดเชยกับราคาขายต่อหน่วยที่ลดลง
- PR9 (คิงส์ฟอร์ด) "ซื้อเก็งกำไร" ราคาเป้าหมาย Blogmberg Consensus 21.80 บาทประเมินการดำเนินงานใน ไตรมาส 1/67 มีแรงหนุน YoY จากการฟื้นตัวของผู้ป่วยชาวจีน(ตามตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาในไทย) ขณะที่ฝั่งผู้ป่วยไทยยังโดดเด่นในเรื่องโรคไตและได้ประโยชน์จากตัวเลขผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ของไทยที่สูงขึ้น YoY ด้าน PR9 เอง ปี 67 ตั้งเป้ารายได้เติบโต +12%YoY พร้อมทั้งทำการตลาดไปหาผู้ป่วยต่างซาติมากขึ้น(กัมพูชา, พม่า, ลาว, จีน, และกลุ่มใหม่-ชาติอาหรับ) ทั้งนี้ตลาดคาดกำไรสุทธิ ปี 67 และ ปี68 จะขยายตัวต่อเนื่องมาอยู่ที่ 581 ล้านบาท (+4%YOY) และ 687 ล้านบาท (+18%YOY) ตามลำดับ
- CBG (ดาโอ) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 76.00 บาท ยอดขายเบียร์เติบโตสูงช่วงสงกรานต์ และเครื่องดื่มชูกำลังในประเทศขายดีหลังเข้าฤดูร้อน