TISCO ร่วง 4.52% หรือลดลง 4.50 บาท มาที่ 95.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 624.29 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.21 น. ส่วนหนึ่งมาจากการขึ้นเครื่องหมาย XD
ขณะที่ BBL ลบ 1.09% หรือลดลง 1.50 บาท มาที่ 136.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 658.65 ล้านบาท
SCB ลบ 0.95% หรือลดลง 1.00 บาท มาที่ 104.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 557.66 ล้านบาท
KTB ลบ 0.62% หรือลดลง 0.10 บาท มาที่ 16.10 บาท มูลค่าซื้อขาย 349.03 ล้านบาท
TTB ลบ 1.67% หรือลดลง 0.03 บาท มาที่ 1.77 บาท มูลค่าซื้อขาย 103.98 ล้านบาท
ทั้งนี้ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ปรับตัวลง ตอบรับความกังวลกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เชิญผู้บริหารสูงสุดของ 4 แบงก์ใหญ่ คือ ไทยพาณิชย์-กสิกรไทย-กรุงเทพ-กรุงไทย มาหารือเมื่อวานนี้ เพื่อขอความร่วมมือช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ด้วยการลดดอกเบี้ย โดยเฉพาะสินเชื่อบ้านและสินเชื่อเอสเอ็มอี
บล.หยวนต้า ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เรามองราคาหุ้นกลุ่มธนาคารจะตอบรับเชิงลบในช่วงเช้า เพื่อรอติดตามข้อสรุปจากการประชุมของสมาคมธนาคารไทยในช่วงบ่ายหรือเย็นวันนี้ หลังผู้บริหารธนาคารใหญ่เข้าประชุมร่วมกับนายกรัฐมนตรีวานนี้ เพื่อเตรียมมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติมให้กับลูกหนี้ในกลุ่มเปราะบาง โดยเรามองเป็น 2 กรณี คือ
1. หากมาตรการใหม่ เป็นไปในลักษณะใกล้เคียงกับมาตรการปรับโครงสร้างหนี้และมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ภายใต้มาตรการ Responsible Lending ผลกระทบต่อประมาณการจะค่อนข้างจำกัด เพราะกระทบกับฐานลูกหนี้ไม่มาก
2. หากเป็นมาตรการที่เป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ย M-Rate ต่างๆ เช่น MRR หรือ MLR จะส่งผลกระทบทางลบต่อรายได้ดอกเบี้ย โดยเฉพาะสินเชื่อในกลุ่มที่อยู่อาศัย ซึ่งธนาคารที่มีสัดส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยมากที่สุดคือ SCB (31%), TTB (25%), KTB (19%) และ KBANK (17%) ส่วนผลต่อสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อบัตรเครดิตคาดไม่มากนัก เพราะส่วนใหญ่เป็นสัญญาดอกเบียคงที่ ทำให้การลดดอกเบี้ยจะมีผลเฉพาะสินเชื่อปล่อยใหม่
เบื้องต้นเราคงมุมมอง "Neutral" สำหรับกลุ่มธนาคารรอประเมินผลกระทบจากมาตรการที่จะออกมาเพิ่มเติมในวันนี้ โดยธนาคารที่คาดได้รับผลกระทบน้อยแม้กรณีที่มีการลดดอกเบี้ย M-Rate คือ TISCO และ KKP แต่หากมาตรการไม่รุนแรงคาดจะเห็นแรงซื้อกลับของกลุ่มธนาคารใหญ่อื่นๆ ในช่วงเย็น