สำหรับคอนโดฯ แบรนด์เคฟ เป็นหนึ่งในเรือธงหลักสำคัญของ ASW ที่สร้างความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตรายได้มาอย่างต่อเนื่อง มีจุดเด่นคือทำเลรอบมหาวิทยาลัย (Campus Condo) จับกลุ่มลูกค้าเรียลดีมานด์ (Real Demand) เพื่ออยู่อาศัย รวมทั้งกลุ่มนักศึกษา Gen Z ที่พักอาศัยระหว่างเรียน และกลุ่มนักลงทุนอสังหาฯ ที่ต้องการผลตอบแทน (Yield) ที่ดีจากการปล่อยเช่า ส่วนโครงการเดอะไทเทิล ฮาโลวัน ในยาง พัฒนาโดย บมจ.ร่มโพธิ์ พร็อพเพอร์ตี้ (TITLE) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ ASW โดยถือว่าเป็นคอนโดฯ สร้างเสร็จใหม่ตัวแรกในทำเลภูเก็ต ที่สามารถรับรู้รายได้ภายหลังจากที่บริษัทเข้าลงทุนใน TITLE เมื่อไตรมาส 3/66 โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่าสูงถึง 1.53 พันล้านบาท
จากการที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ขยายเพดานบ้าน จากเดิมไม่เกิน 3 ล้านบาท เป็นไม่เกิน 7 ล้านบาท ให้ได้รับสิทธิมาตรการทางภาษีซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ ลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 67 และโครงการสินเชื่อบ้าน ให้อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3% เป็นระยะเวลา 5 ปี วงเงินต่อรายสูงสุด ไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมถึงมาตรการอื่นๆ อีก เชื่อว่าจะส่งผลให้ตลาดที่อยู่อาศัยในปี 67 คึกคักขึ้น เพราะจะทำให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านเร่งตัดสินใจซื้อบ้านภายในปีนี้ และส่งผลเชื่อมโยงไปยังธุรกิจต่างๆ อีกจำนวนมาก เช่น แรงงาน วัสดุก่อสร้างและตกแต่งบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ภายในบ้าน อันจะส่งผลดีต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในภาพรวม