STX เปิดเทรดวันแรกที่ 2.78 บาท ลดลง 0.22 บาท หรือ -7.33% จากราคา IPO ที่ 3.00 บาท
บล.โกลเบล็ก (ผู้ร่วมจัดจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนซึ่งจะได้รับค่าธรรมเนียมในการจัดจำหน่ายครั้งนี้) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ. สโตนวัน (STX) ราคา IPO 3.00 บาท ราคาเหมาะสม 3.08-3.20 บาท
STX ดำเนินธุรกิจเหมืองหิน โดยผลิตและจำหน่ำยผลิตภัณฑ์หินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้ำงชนิดหินแกรนิต และหินปูน และแร่โดโลไมต์ (Dolomite) รวมถึงการให้บริการด้ำนขนส่ง โดยมีสัดส่วนรายได้ปี 66 ที่ 85.1% และ 0.1% ตามลำดับ หากแบ่งตามผลิตภัณฑ์หินแกรนิต หินปูน และแร่โดโลไมต์ปี 66 มีสัดส่วน 30.2% 47.9% และ 11.4% ตามลำดับ
ทั้งนี้บริษัทมีรายได้และกำไรสุทธิปี 63-65 อยู่ที่ 410.9-279.6 ล้านบาท และ 33.2-21.6 ล้านบาท ตามลำดับ โดยคิดเป็นอัตราการหดตัวเฉลี่ย CAGR ตลอดปี 63-65 ที่ -18% และ -19% ต่อปีตามลำดับ เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 นอกจากนี้มีการปิดเหมืองหนองข่ำชั่วคราวในปี 65 จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้นจากการผลิตเหมืองที่ลึกขึ้น ขณะที่รายได้และกำไรปี 66 เติบโต 32%YoY และ 73%YoY สู่ 316 ล้านบาท และ 38 ล้านบาท ตามลำดับ เนื่องจากการขาดแคลนหินก่อสร้างในภาคตะวันออกทำให้ทั้งอุปสงค์และราคาจำหน่ำยเพิ่มขึ้นหนุนผลประกอบการ
คาดผลประกอบการปี 67 เติบโต 28% สู่ 46 ล้านบาท โดยได้แรงหนุนจากการ 1) ก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคใน EEC ตามแผนก่อสร้างปี 66-70 2) การปรับปรุงและก่อสร้างโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออกปี 67-70 และ 3)การก่อสร้างท่ำเรือแหลมฉบับเฟส 3 เป็นปัจจัยหนุนต่อรายได้เพิ่มเติม
จำนวนหุ้น IPO 65 ล้ำนหุ้น และมีมูลค่ำหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 726.4 ล้านบาท ราคา IPO คิดเป็น trailing P/E 24.22 เท่ำ ซึ่งสูงกว่ำบริษัทที่ดำเนินธุรกิจคล้ำยคลึงกัน อาทิ CMAN และ SUTJA ที่ 15.7 เท่า โดยการระดมทุนเพื่อ 1) ใช้เป็นเงินลงทุนในธุรกิจเหมืองหินและแร่ หรือใช้ในการซื้อเหมืองหินและแร่ หรือใช้ในการก่อสร้างอาคารโรงงานรวมถึงการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง และ 2) เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจ