ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กดาวโจนส์ปิดร่วง 120.90 จุด หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งเหนือ $126

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 126 ดอลลาร์/บาร์เรลจะเป็นปัจจัยลบที่คุกคามเศรษฐกิจสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่าบริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ขาดทุนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ 
          สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 120.90 จุด หรือ 0.94% แตะระดับ 12,745.88 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 9.40 จุด หรือ 0.67% แตะระดับ 1,388.28 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดรูดลง 5.72 จุด หรือ 0.23% แตะระดับ 2,445.52 จุด
          ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 3.40 พันล้านหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับวันพฤหัสบดีที่ 3.70 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 8 ต่อ 7
          ฟิล ออร์แลนโด นักวิเคราะห์จากบริษัทเฟเดอเรทเต็ด อินเวสเตอร์ส กล่าวว่า นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องสถานะในระบบการเงินทั่วโลก หลังจากบริษัท AIG ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่อันดับ 1 ของโลก รายงานตัวเลขขาดทุน 7.81 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดทุน 2 ไตรมาสติดต่อกัน หลังจากบริษัทปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี นอกจากนี้ บริษัทเปิดเผยว่าจะระดมทุน 1.25 หมื่นล้านดอลลาร์เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับงบดุลบัญชีของบริษัท
          นายมาร์ติน ซัลลิแวน ซีอีโอของ AIG สามารถสร้างกำไรให้แก่ AIG มาได้ตลอดจนถึงปลายปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่เขาเข้ารับตำแหน่งซีอีโอประมาณ 3 ปี อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ขณะนี้นายซัลลิแวนต้องดำเนินการเพื่อยับยั้งการขาดทุน และต้องเร่งระดมทุนเพิ่ม 
          AIG เป็นบริษัทรายล่าสุดที่ปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีและทำการเพิ่มทุน โดยนักวิเคราะห์ประมาณการว่า บริษัทการเงินทั่วโลกปรับลดมูลค่าทรัพย์สินทางบัญชีลงแล้วมากกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์ และระดมทุนมากกว่า 2 แสนล้านดอลลาร์
          ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเหนือระดับ 126 ดอลลาร์/บาร์เรลเป็นครั้งแรกในระหว่างวัน ก่อนที่จะถอยลงมาปิดที่ 125.96 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ โดยนักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงอาจบั่นทอนการเติบโตทางเศรษฐกิจสหรัฐและทำให้แรงกดดันด้านเงินเฟ้อสูงขึ้น ซึ่งจะเป็นชนวนเหตุให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยเพื่อยับยั้งเงินเฟ้อ
          นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าในเดือนมี.ค.อยู่ที่ระดับ 58.2 พันล้านดอลลาร์ 
          หุ้น AIG ร่วงลง 8.8% หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขขาดทุนและแผนการระดมทุนเพิ่ม ขณะที่หุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 2.8% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าอาจต้องปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ประมาณ 4-5 แสนล้านดอลลาร์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า เนื่องจากขาดทุนจำนวนมากในตลาดปล่อยกู้จำนองและตลาดสินเชื่อ
          ส่วนหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ดิ่งลง 4.1% หลังจากมีรายงานว่า จีเอ็มเสนอเงินก้อนใหญ่เพื่อช่วยไกล่เกลี่ยและยุติการชุมนุมประท้วงของคนงานบริษัทอเมริกัน แอ็กเซิล แอนด์ เมนูแฟคเจอริง ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์ชิ้นส่วนรถยนต์