สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งการให้บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) (NUSA) ชี้แจงข้อมูลภายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 กรณีบริษัทบริษัทย่อยจำหน่ายที่ดินกรรมสิทธิ์โครงการมายโอโซนในราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมินทรัพย์สินอย่างมีนัยสำคัญ และความคืบหน้าของกรณีการขายโครงการเอสเซน พระราม 5 รวมถึงชี้แจงความเพียงพอและเหมาะสมของระบบควบคุมภายในของ NUSA ในการกำกับดูแลการขายทรัพย์สินของบริษัท พร้อมทั้งเปิดเผยข้อมูลผ่านระบบการเผยแพร่ข้อมูลของบริษัทจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ระบบ SETLink)
ตามที่หมายเหตุประกอบงบการเงินประจำปี 2566 ของบริษัท ณุศา มาย โอโซน จำกัด (NMO) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ NUSA เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2567 การประชุมคณะกรรมการ NMO ครั้งที่ 2/2567 มีมติอนุมัติขายที่ดินกรรมสิทธิ์ไม่มีสิ่งปลูกสร้างรวม 9 โฉนด ในจังหวัดนครราชสีมา เนื้อที่ 13-2-83 ไร่ ให้กับ บริษัท ชีวาคุณ เอสเตทส์ จำกัด (บ.ชีวาคุณ) ในราคา 68.54 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปเป็นทุนหมุนเวียนและเสริมสภาพคล่องในกิจการของบริษัท ต่อมา ก.ล.ต. ได้รับข้อมูลว่า ที่ดินที่ NMO ได้ขายไปนั้น ตามรายงานการประเมินมูลค่าทรัพย์สินที่จัดทำโดยบริษัท ที.เอ. มาเนจเม้นท์ คอร์โปเรชั่น (1999) จำกัด (ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2566) มีราคาประเมินราชการอยู่ที่ 115.14 ล้านบาท และราคาประเมินของบริษัทผู้ประเมินอยู่ที่ 274.15 ล้านบาท แต่ NMO ขายที่ดินไปในราคา 68.5 ล้านบาท ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวเป็นการจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินของบริษัทย่อยของบริษัทจดทะเบียนในราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมินของผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน และต่ำกว่าราคาประเมินของทางราชการอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้ง NUSA เปิดเผยว่ายังมีแผนในการจำหน่ายทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ เพื่อนำมาเสริมสภาพคล่องทางการเงินและชำระคืนภาระหนี้สินที่จะครบกำหนดชำระภายใน 1 ปี จำนวน 2,352 ล้านบาท
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2566 NUSA ได้เปิดเผยผ่านระบบ SETLink ว่าฝ่ายบริหารของ NUSA อยู่ระหว่างการประเมินผลกระทบของการแก้ไขข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น กรณีการขายโครงการเอสเซน พระราม 5 ในราคาที่ต่ำกว่าราคาประเมิน โดยไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การทำรายการกับบุคคลที่เกี่ยวโยงกัน โดยได้ดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อหาข้อสรุปที่ให้เกิดความเสียหายในรูปตัวเงินและชื่อเสียงของ NUSA น้อยที่สุดนั้น ทั้งนี้ นับตั้งแต่ที่ NUSA เผยแพร่ข่าวข้างต้นจนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีการเปิดเผยความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินการกรณีดังกล่าว
ก.ล.ต. พิจารณาข้อมูลที่เกี่ยวข้องแล้วเห็นว่า ประเด็นที่ปรากฏข้างต้นนั้น อาจส่งผลกระทบต่อการประกอบธุรกิจและการบริหารจัดการ NUSA หรือบริษัทย่อยอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นของ NUSA และผู้ลงทุนประกอบกับข้อมูลที่ NUSA ได้เปิดเผยต่อผู้ลงทุนนั้น ยังมีความไม่ชัดเจนในหลายประการเกี่ยวกับการขายที่ดินให้กับ บ.ชีวาคุณ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างกรรมการและผู้บริหารของ NUSA กับผู้ซื้อที่ดินด้วย ซึ่งข้อมูลดังกล่าวอาจจะมีผลกระทบต่อสิทธิประโยชน์ของผู้ถือหลักทรัพย์ หรือต่อการตัดสินใจในการลงทุนของผู้ลงทุน ก.ล.ต. จึงอาศัยอำนาจตามมาตรา 58 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 สั่งการให้ NUSA ชี้แจงข้อมูลดังต่อไปนี้ 1. วัตถุประสงค์ในการขายที่ดินของ NMO ที่มาและความสมเหตุสมผลของราคาขาย กระบวนการขั้นตอนการพิจารณาและอนุมัติขายที่ดินของคณะกรรมการ NMO รวมทั้งความสัมพันธ์กับผู้ซื้อที่ดิน รวมถึงบทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ NUSA ในการกำกับดูแลการบริหารงานของบริษัทย่อยในปัจจุบัน 2. ความคืบหน้าของกรณีการขายโครงการเอสเซน พระราม 5 3. บทบาทของคณะกรรมการ NUSA ในการติดตาม กำกับดูแลความเพียงพอและเหมาะสมของระบบควบคุมภายในของ NUSA และบริษัทย่อยในการป้องกันไม่ให้มีการใช้ช่องทางการจำหน่ายทรัพย์สินของ NUSA และบริษัทย่อยในการกระทำที่ไม่เหมาะสม ที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบด้านลบต่อบริษัทจดทะเบียน รวมถึงแผนการใช้เงินที่ได้จากการขายทรัพย์สิน
นอกจากนี้ ขอให้คณะกรรมการและผู้บริหารของ NUSA ให้ความร่วมมือกับคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทในการเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็น ทั้งข้อมูลของบริษัทและข้อมูลทางการเงิน หรือข้อมูลอื่นใดที่จำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมต่าง ๆ ภายในบริษัท และขอให้คณะกรรมการทุกรายของ NUSA กำกับดูแลและตรวจสอบธุรกรรมการดำเนินการต่าง ๆ ที่ NUSA ดำเนินการอยู่และที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าเป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม และเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทด้วย
ทั้งนี้ ให้กรรมการทุกรายของ NUSA ชี้แจงข้อมูลดังกล่าวต่อ ก.ล.ต. พร้อมกับเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ภายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2567 และเผยแพร่คำชี้แจงดังกล่าวผ่านระบบ SETLink