นายทรงวุธ เวชชานุเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สโตนวัน (STX) กล่าวว่า ความต้องการใช้หินมีแต่เพิ่มมากขึ้น จากการเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 ทำให้โครงการเดิมที่รองบประมาณ และโครงการใหม่เดินหน้าต่อได้ รวมถึงราคาหินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสนับสนุนผลประกอบการ STX คาดเติบโตมากกว่าเป้าหมาย Organic Growth ที่ระดับ 10% อีกทั้ง มีคำสั่งซื้อใหม่เข้ามาจ่อรอคิวแน่น
ในด้านราคาหุ้นวันแรกที่เข้าซื้อขายบนกระดาน (26 เมษายน 67) เชื่อว่า ผลงานจะสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนในระยะยาวได้ โดยเงินระดมทุนใช้ต่อยอดลงทุนเหมืองใหม่ รับโอกาสอีกเพียบ
ล่าสุดบริษัทคว้างานหินอุตสาหกรรมเพื่อการก่อสร้าง ใช้สำหรับงานถมทะเล ในโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญในการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ซึ่งรัฐบาลต้องการเร่งพัฒนาให้เสร็จโดยเร็ว
สำหรับ โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 เป็นโครงการที่มีการเชื่อมต่อและขนส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ( กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม ) และประเทศจีนตอนใต้ ถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการขนส่งและกระจายสินค้าที่สำคัญของภูมิภาค และเตรียมผลักดันให้เป็นท่าเรือชั้นนำของโลก ที่ STX ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความคืบหน้าของงานโครงการดังกล่าวนี้
ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นออเดอร์หินไซส์ใหญ่ จำนวน 500,000 ตัน มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งจะเข้ามาสนับสนุนงานในมือ (Backlog) ทยอยรับรู้รายได้ประมาณกว่า 1 ปี อีกทั้ง สนับสนุนยอดขายในช่วงไตรมาส 2/67 ให้เติบโตขึ้น จากปกติในไตรมาส 2 เป็น Low Season ของอุตสาหกรรมก่อสร้างในช่วงฤดูฝนและยังเตรียมรับรู้รายได้จากออเดอร์ใหม่อีกด้วย