นพ.วิวัฒน์ กว้างคณานุรักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซฟ เฟอร์ทิลิตี้ กรุ๊ป (SAFE) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานและแผนธุรกิจในปี 2567 คาดว่าจะเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง บริษัทฯจะมุ่งสร้างการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมเดินหน้าลงทุนเทคโนโลยีใหม่ที่จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์ และการเพิ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ในธุรกิจด้าน Wellness รวมถึงแผนร่วมลงทุนในธุรกิจที่สร้าง Synergy ให้กับกลุ่มบริษัท และในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 25% สร้างสถิติสูงสุดใหม่
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2566 เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ได้รับปัจจัยหนุนจากการให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยากที่เพิ่มขึ้นจากจำนวนรอบของการเก็บไข่ (treatment cycle) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคนไข้ชาวต่างชาติที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อน และคนไข้ชาวไทยที่ทยอยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลางปี 2566 เป็นต้นมา อีกทั้งรายได้จากการให้บริการตรวจพันธุกรรมของตัวอ่อนและทารกในครรภ์ ที่เติบโตตามธุรกิจ IVF ที่ขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยการตรวจคัดกรองพันธุกรรมสามารถเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์และความสมบูรณ์ของบุตรที่จะคลอดออกมา
ทั้งนี้ กรณีที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เตรียมทบทวนปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติการคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงบริการกับคู่รักสามีภรรยาที่มีลูกยาก เบื้องต้นจะมีการปรับแก้เกณฑ์กฎหมาย "พ.ร.บ.อุ้มบุญ" ในปี 2567 บริษัทฯ มองเป็นผลบวกต่อกลุ่ม SAFE โดยตรง เนื่องจากเป็นผู้ให้บริการการรักษาผู้มีบุตรยาก ที่เป็นชาวต่างชาติในหลายสัญชาติ ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 50% ของเคสทั้งหมดเฉลี่ยต่อปี เช่น เวียดนาม อินเดีย จีน เมียนมา สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น ทำให้เป็นที่รู้จักของลูกค้าในหลายประเทศอยู่แล้ว และมีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์สูงเกิน 70%