นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้คาดว่าแกว่งตัวในกรอบ โดยที่ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อคืนนี้ยังคงดอกเบี้ยต่อไป และถ้อยแถลงของประธานเฟดยังคงเน้นย้ำว่าไม่มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทำให้ตลาดรับทราบข่าวและคลายกังวลปัจจัยดังกล่าวลงไปค่อนข้างมาก โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวบวกและลบสลับกัน
ขณะที่ในช่วงนี้แม้ว่าจะไม่มีปัจจัยใหม่ออกมา แต่ยังอยู่ในช่วงของการประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 ซึ่งอาจจะยังมีแรงหนุนต่อตลาดหุ้นไทยจากกลุ่มหุ้นที่มีการรายงานผลการดำเนินงานไตรมาสแรกออกมาดีช่วยหนุนได้
โดยให้แนวต้าน 1,370-1,375 จุด แนวรับ 1,355-,1360 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (1 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 37,903.29 จุด เพิ่มขึ้น 87.37 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,018.39 จุด ลดลง 17.30 จุด หรือ -0.34% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,605.48 จุด ลดลง 52.34 จุด หรือ -0.33%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิเปิดตลาดที่ระดับ 38,004.01 จุด ลดลง 270.04 จุด หรือ -0.71% ขณะที่ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 17,760.68 จุด ลดลง 2.35 จุด หรือ -0.01% ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ (2 พ.ค.) เนื่องในวันแรงงาน
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (30 เม.ย.) 1,367.95 จุด เพิ่มขึ้น 5.98 จุด (+0.44%) มูลค่าการซื้อขาย 44,917.29 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 954.40 ล้านบาท (30 เม.ย.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. (1 พ.ค.) ลดลง 2.93 ดอลลาร์ หรือ 3.58% ปิดที่ 79.00 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 พ.ค.) อยู่ที่ 3.63 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 37.04 แข็งค่ารับดอลลาร์อ่อนค่าหลังเฟดมีมติคงดอกเบี้ย จับตาทิศทาง Flow
- "สัตยา นาเดลลา" ซีอีโอ "ไมโครซอฟท์" ประกาศลงทุน "ดาต้าเซ็นเตอร์" ในไทย พร้อมลุยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคลาวด์ AI ยกระดับศักยภาพบุคลากร ชุมชนนักพัฒนา ต่อยอดเอ็มโอยูกับรัฐบาล มุ่งนำประเทศไทยสู่อนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมดิจิทัลและ AI คาดช่วยหนุนจีดีพีไทย เพิ่มขึ้นได้มากกว่า 4.3 ล้านล้านบาท "เศรษฐา" ย้ำไทยพร้อมรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งที่สุดในภูมิภาค หนุน AI เติบโตเต็มที่
- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานภาคได้รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยรายภาคเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่า เศรษฐกิจในภาคเหนือปรับลดลงจากเดือนก่อน จากการบริโภคลดลงหลังเร่งไปในช่วงตรุษจีน รวมทั้งกิจกรรมท่องเที่ยวลดลง หลังพ้นช่วงฤดูท่องเที่ยว และเริ่มได้รับผลกระทบจากสถานการณ์หมอกควันในช่วงครึ่งหลังของเดือน ด้านผลผลิตเกษตรลดลงจากผลกระทบของเอลนีโญ โดยประเด็นที่ต้องติดตามต่อไปคือ สถานการณ์หมอกควันที่จะกระทบต่อการดำเนินชีวิต และการทำงาน ผลกระทบเอลนีโญต่อภาคเกษตร
- ในเดือนเม.ย. ที่ผ่านมา "ต่างชาติ" พลิกกลับซื้อ "หุ้นไทย" เฉียด 4 พันล้าน "บล.กสิกรไทย" ชี้แม้เป็นตัวเลขไม่สูงมาก แต่เริ่มเห็นสัญญาณ รีบาวนด์ "บล.เอเซีย พลัส" ต่างชาติซื้อ หุ้นไทยโดดเด่นกว่าเพื่อนบ้าน
- "ศรีสุวรรณ" ฟ้องศาลปกครองกลางไต่สวนฉุกเฉินระงับย้ายกากแคดเมียม หลังเกิดเหตุโซ่ยกถุงบิ๊กแบ็กขาด "ดร.เอ้" ชี้น่าอนาถ! เครื่องมือขนเหมือนสร้างห้องแถว ขณะที่ "กมธ.ที่ดินฯ" ผงะหน่วยงานรัฐไร้แผนจัดการ แถมเจอผัก-ผลไม้ปนเปื้อน ช็อก! "อธิบดีกรมโรงงานฯ" ประกาศลาออกกลางวงประชุม กมธ.อุตสาหกรรม
- "เศรษฐา" ไม่ลืมสัญญาค่าแรงขั้นต่ำ 400 ลั่นยกระดับแรงงานเพิ่มเงินเดือน ลดรายจ่าย เพิ่มเงินในกระเป๋า ด้าน รมว.แรงงาน ยันค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ เริ่ม 1 ตุลาคมนี้ ตั้งเป้าปี 70 ขึ้นเป็น 600 บาทต่อวัน มั่นใจสามารถทำให้กิจการพร้อมรับได้โดยเฉพาะ SME ภายใน 4-5 เดือนต่อจากนี้ ด้านสมาพันธ์แรงงาน "สสรท.-สรส" ยื่นข้อเสนอ "วันกรรมกรสากล" ถึงนายกฯ ให้แก้ไขปัญหาผู้ใช้แรงงาน จี้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำ 492 บาท เท่ากันทั้งประเทศ
*หุ้นเด่นวันนี้
- ตลาดหลักทรัพย์ฯ รับ บมจ. สุพรีม ดิสทิบิวชั่น เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี หมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "SPREME" ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 โดยราคา IPO หุ้นละ 2.60 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 468 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,924 ล้านบาท
- CPAXT (ไอร่า) "ซื้อเล่นรอบ" เป้าหมาย 36.00/39.00 บาท คาดกำไรปกติไตรมาส 1/67 อาจย่อตัวลงบ้าง QoQ จากปัจจัยเชิงฤดูกาลแต่คาดจะเติบโต +19.4%YoY จากยอดขายที่ดีขึ้นของแม็กโครและโลตัส โดย SSSG แม็กโคร +3-5%YoY ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากค่าไฟเดือน ม.ค. - เม.ย. ลดลง 22%YoY และดอกเบี้ยจ่ายลดลงต่อเนื่อง คาดจะหนุนทิศทางราคาฟื้นตัวกลับขึ้นได้
- ADVANC (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 248.93 บาท บริษัทรายงานผลประกอบการแข็งแรงเติบโตแรง 21% QoQและ25% YoY แตะระดับ 8.4 พันลบ. แม้มี FX loss โดยหากไม่นับจะโตแรงกว่านี้ ทั้งนี้ผลประกอบการสะท้อนcore operation บริษัทแข็งแกร่งหลังรวมกิจการTTTBB และ 3BBIF ผลขาดทุนจากTTTBB ไม่เพียงมีแนวโน้มลดลง แต่บริษัทมีการควบคุมต้นทุนต่างๆได้ดีขึ้นด้วย ทำให้กำไรที่รายงานออกมาดีกว่าที่เราคาดไว้ถึง20% และสูงกว่าที่ตลาดมอง 17%