นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล, CISA ผู้อำนวยการอาวุโส สายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดแกว่งไซด์เวย์อิงแดนบวกได้เล็กน้อย คล้ายภูมิภาคเอเชีย รับแรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ (บอนด์ยีลด์) ปรับตัวลงต่ำกว่า 4.6% และค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่า หรืออยู่ในระดับต่ำกว่า 37 บาทต่อดอลลาร์ ส่งผลดีต่อบรรยากาศการลงทุน
อีกทั้งราคาน้ำมันดิบ เช้านี้กลับมาบวกได้ หลังจากมีรายงานว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส อาจจะขยายเวลาในการปรับลดกำลังการผลิตไปจนถึงสิ้นปีนี้ หากอุปสงค์น้ำมันไม่ฟื้นตัว ซึ่งจะหนุนต่อกลุ่มพลังงาน
แต่เนื่องจากตลาดหุ้นบ้านเราจะปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวันชดเชยวันฉัตรมงคล รวมถึงนักลงทุนรอดูการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในคืนนี้ ทำให้ดัชนีฯ ยังไปไหนได้ไม่ไกล
ให้แนวรับ 1,355-1,350 จุด และแนวต้าน 1,373-1,375 จุด
*ประเด็นพิจารณาการลงทุน
- ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (2 พ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 38,225.66 จุด เพิ่มขึ้น 322.37 จุด หรือ +0.85%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,064.20 จุด เพิ่มขึ้น 45.81 จุด หรือ +0.91% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 15,840.96 จุด เพิ่มขึ้น 235.48 จุด หรือ +1.51%
- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีฮั่งเส็งเปิดตลาดที่ระดับ 18,543.30 จุด เพิ่มขึ้น 336.17 จุด หรือ +1.85% ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้เนื่องในวันแรงงาน ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้เนื่องในวันรัฐธรรมนูญ
- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 พ.ค.) 1,363.25 จุด ลดลง 4.70 จุด (-0.34%) มูลค่าซื้อขาย 48,921.31 ล้านบาท
- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,243.99 ล้านบาท (2 พ.ค.)
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. (2 พ.ค.)ลดลง 5 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่ 78.95 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 12 มี.ค. 2567
- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (2 พ.ค.) อยู่ที่ 4.42 เหรียญ/บาร์เรล
- เงินบาทเปิด 36.78 แข็งค่าต่อเนื่องตามภูมิภาค วันนี้จับตาเงินเฟ้อไทย-ตัวเลขศก.สหรัฐ
- นักเศรษฐศาสตร์ชี้เงินเฟ้อสหรัฐสูง ขณะที่ดอลลาร์แข็งค่า ต้นตอเฟดคงดอกเบี้ย 5.25%-5.50% กดดันเงินบาท-เอเชียอ่อนค่า คาด กนง.ตรึงดอกเบี้ยยาว แม้เศรษฐกิจไทย เดือนมี.ค.ส่งสัญญาณชะลอตัว หวังดิจิทัลวอลเล็ต มาตามนัด กระตุ้นจีดีพีโต 2.7% ด้านโออีซีดีปรับเพิ่มคาดการณ์เศรษฐกิจโลกประจำปี 2567 ได้แรงหนุน จากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างมีพลวัต ขณะที่ ยูโรโซนยังตามหลัง
- "อินโด-มาเลย์" แซงไทยดึงเงินลงทุนดิจิทัลระดับโลก หลัง "ซีอีโอ ไมโครซอฟท์" ทัวร์อาเซียน เยือน "มาเลเซีย" ประกาศลงทุนคลาวด์-เอไอ 8.1 หมื่นล้านบาท ลงทุนอินโดฯ 6.3 หมื่นล้านบาท ส่วนไทยประกาศแผนตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ แต่อุบเม็ดเงินลงทุน คาดดีลยังไม่จบอยู่ขั้นดำเนินงานเฟสแรก "บีโอไอ" เผยบิ๊กเทคร้องหาไฟสะอาด 100% กกพ.เร่งเคาะราคาเดินหน้าโครงการ UGT1-2 สร้างแรงจูงใจ
- บีโอไอเผยยอดขอรับการส่งเสริมการลงทุนไตรมาส 1 เติบโตก้าวกระโดดจากปีก่อนทั้งจำนวนโครงการและเงินลงทุน โดยมีคำขอรับการส่งเสริม 724 โครงการ เงินลงทุน 228,207 ล้านบาท
- รมช.คลัง เปิดเผยว่า หลังจาก พ.ร.บ.งบประมาณ 67 มีผลบังคับใช้ มีโครงการที่จะมีการลงนามในสัญญาแล้ว 250,000 ล้านบาท ถึงแม้ว่า พ.ร.บ.งบประมาณปี 67 จะล่าช้ากว่ากำหนด แต่ในช่วงที่อยู่ระหว่างรองบประมาณที่ยังไม่มีผลบังคับใช้ ส่วนราชการที่มีโครงการลงทุน ได้เริ่มกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ตั้งแต่จัดทำเงื่อนไขการจัดซื้อจัดจ้าง (ทีโออาร์) และประกาศเชิญชวน พร้อมเปิดประมูลโครงการ ยกเว้นการลงนามในสัญญา เมื่อ พ.ร.บ.งบประมาณมีผลบังคับใช้ ก็จะเริ่มลงนามในสัญญาทันที
*หุ้นเด่นวันนี้
- TU (กสิกรไทย) ราคาพื้นฐานที่ 15.90 บาท ได้ประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง คาดกำไรปกติไตรมาส 1/67 จะอยู่ที่ 854 ลบ. เพิ่มขึ้น 7.2% YoY แต่ลดลง 25.3% QoQ คิดเป็น 15.8% ของประมาณการกำไรปกติปี 2567 ของเราที่ 5.5 พันลบ. เพิ่มขึ้น 16.3% YoY กำไรไตรมาส 1/2567 น่าจะเป็นไตรมาสต่ำสุดของปี และกำไรของ TU น่าจะฟื้นตัวต่อไปในช่วงที่เหลือของปี จากราคาปลาทูน่าที่ลดลงในช่วงที่ผ่านมา อุปสงค์เพื่อการส่งออกที่ฟื้นตัวขึ้น และการไม่มีส่วนแบ่งผลขาดทุนจาก Red Lobster
- BA (ลิเบอเรเตอร์) "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 19.90 บาท แนวโน้มไตรมาส 1/67 คาดเห็นกำไรดีขึ้นทั้ง QoQ, YoY จากที่เป็น high season ท่องเที่ยว ส่งผลปริมาณผู้โดยสารเติบโต ส่วนราคาค่าตั๋วโดยสารยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงต่อเนื่องจากความต้องการในการเดินทางที่ฟื้นเร็วกว่า supply ขณะที่ค่าใช้จ่าย SG&A จะลดลง QoQ สู่ระดับไตรมาสปกติ ส่วนในไตรมาส 2/67 แม้ปกติเป็น low season แต่จะเห็นผลการดำเนินงานปกติดีขึ้น YoY หนุนจากสถิติการบินยังมี room ให้ improve ไปเทียบเท่าช่วง pre-covid ได้ ก่อนจะเข้าสู่ไตรมาส 3/67 ที่เป็น high season ของสมุยอีกครั้ง ทั้งนี้ในปี 67 บริษัทตั้งเป้าผู้โดยสาร 4.5 ล้านคน +13%YoY LF 85% (ปี 66 = 79%) เที่ยวบิน 48,000 เที่ยวบิน +7%YoY และ Passenger Revenue 17,800 ล้านบาท +19%YoY ตามลำดับ
- GULF (กรุงศรี) "ซื้อ" เป้า IAA Consensus 56.5 บาท) มีจิตวิทยาบวกจาก US Bond yield ย่อตัว, ราคาพลังงานปรับฐาน และคาดว่าจะได้ประโยชน์จากกระแส green energy และ data center