นายภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (SPREME) เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ช่วยสนับสนุนให้บริษัทฯ มีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และบริษัทฯ เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเข้าประมูลงานภาครัฐขนาดใหญ่มูลค่าโครงการมากกว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะงานกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญและได้รับงานประมูลอย่างสม่ำเสมอตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา และมีสถิติของอัตราโอกาสการได้งานมากกว่า 60-70%
ขณะเดียวกัน พร้อมเดินหน้าลงทุนซื้อกิจการต่อยอดธุรกิจเดิมของบริษัทฯ (M&A) เพื่อสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน เพิ่มศักยภาพธุรกิจต่อไปในอนาคต ทั้งนี้บริษัทฯอยู่ระหว่างการเจรจา 2-3 ดีล ซึ่งธุรกิจที่บริษัทฯ ให้ความสนใจเป็นพิเศษจะเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ System Integrator ซึ่งเป็นธุรกิจหลัก และยังรวมถึงธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เป็นธุรกิจเมกะเทรนด์เพิ่มเติมด้วย คาดว่าจะสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานโดยรวมในปี 2567 มีการเติบโตเพิ่มขึ้นได้ในระดับตัวเลขสองหลัก
"ภายหลังเข้าตลาดหุ้น SPREME จะมีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น บริษัทฯ มุ่งมั่นเป็นผู้นำธุรกิจ System Integrator ที่เติบโตอย่างมั่นคง เราจะเดินตามแผนธุรกิจที่วางไว้ทั้งด้านการเข้าประมูลงานภาครัฐขนาดใหญ่มูลค่าโครงการมากกว่า 1,000 ล้านบาท และการทำ (M&A) เพื่อต่อยอดธุรกิจ SI ที่เราเชี่ยวชาญ และต่อเนื่องไปยังธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่เป็นธุรกิจเมกะเทรนด์เพิ่มเติม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการผลักดันผลการดำเนินงานในปีนี้ให้เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลักได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะเดียวกัน เรามีฐานะการเงินและกระแสเงินสดแข็งแกร่ง มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ต่ำที่ 0.77 เท่า หลังจากไอพีโอแล้วจะลดเหลือประมาณ 0.34 เท่า ไม่มีหนี้ที่มีภาระดอกเบี้ย และปัจจุบันบริษัทฯ มีมูลค่างานในมือ (Backlog) ณ 31 ธันวาคม 2566 อยู่ที่กว่า 440 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2567-2568" นายภานุวัฒน์ กล่าว