นายอรรถพล สฤษฏิพันธาวาทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านสนับสนุนองค์กร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น (SC) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลังยังคงหวังพึ่งมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่งอนุมัติมาตรการออกมา ซึ่งยังคงต้องรอดูผลของมาตรการ ท่ามกลางปัจจัยกดดันของกำลังซื้อในประเทศที่ยังคงชะลอตัวอยู่ จากภาระหนี้สินครัวเรือนที่สูง และอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ทำให้การตัดสินใจซื้อของคนในประเทศชะลอตัวออกไป
ขณะที่ลูกค้าต่างชาติยังไม่กลับมาซื้อสังหาริมทรัพย์ในไทยเท่ากับช่วงก่อนโควิด-19 ทำให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยยังขาดปัจจัยกระตุ้น อีกทั้งปริมาณของซัพพลายในตลาดยังมีอยู่ค่อนข้างมาก แม้ว่าผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในตลาดจะชะลอการเปิดโครงการน้อยลงจากปีก่อนที่เปิดโครงการใหม่มูลค่ารวมกว่า 5 แสนล้านบาท และระมัดระวังการลงทุนแล้วก็ตาม ทำให้ภาพรวมของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 67 ยังเติบโตไม่ถึง 10%
ฉะนั้น บริษัทยังไม่มีการปรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ ยอดขายในปี 67 ยังคงเป้าไว้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการแนวราบ 65% และยอดขายคอนโดมิเนียม 35% และรายได้รวมที่ 2.65 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 70% คอนโดมิเนียม 25% และธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำสม่ำเสมอจำนวน 5%
ขณะที่แผนการลงทุนของบริษัทยังเดินหน้าลงทุนธุรกิจคลังสินค้าให้เช่า พื้นที่เช่ารวม 160,000 ตารางเมตร จากคลังสินค้ารวม 4 โครงการ ดำเนินการแล้ว ที่ทำเลนครสวรรค์ 16,000 ตารางเมตร ซึ่งกำลังจะเปิดในปีนี้และปี 68 อีก 144,000 ตารางเมตร ใน 3 ทำเล บางนา กม.20, บางนา กม.22 และแหลมฉบัง และ ยังมีการร่วมลงทุนกับบมจ.สตอเรจ เอเชีย (I-STORE) บุกตลาด Self Storage ภายใต้ แบรนด์ i-Store ซึ่งคาดว่าภายใน สิ้นปี 67 ธุรกิจคลังสินค้าจะมีพื้นที่เช่ารวม 200,000 ตารางเมตร และยังมีอสังหาริมทรัพย์เพื่อเช่าในสหรัฐ จำนวน 78 ห้อง ใน 4 ทำเล ใจกลางเมืองบอสตัน ซึ่งในปีนี้บริษัทมีแผนลงทุนให้ครบ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามแผนที่วางไว้
ล่าสุดบริษัทได้พัฒนาระบบ CRM เพื่อยกระดับในการสร้างคุณค่าแสขคุณภาพชีวิตของลูกบ้านด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัยด้วย "มอร์นิ่ง คอยน์" (MNC) ที่มีการนำเทคโนโลยี Blockchain มาเชื่อมโยงลูกบ้านสู่โลกแห่งสิทธิพิเศษมากมาย ภายใต้ SC Asset Reward Program "The S.U.N" โดยตั้งเป้าให้ลูกค้ามีการใช้สิทธิพิเศษมากกว่า 80% ของจำนวนลูกบ้านทั้งหมด