นายชาตรี จันทรงาม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายควบคุมการเงินและบริหารความเสี่ยง บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) กล่าวว่า แนวโน้มภาพรวมของผลการดำเนินงานไตมาส 2/67 คาดว่าจะทรงตัวจากไตรมาส 1/67 จากสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศยังคงเป็นไปในลักษณะที่คล้ายกับช่วงไตรมาส 1/67 ที่ผ่านมา และยังไม่ได้มีสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นกลับมาอย่างมีนัยสำคัญ
แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยหนุนในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เข้ามาบ้าง จากการจัดงาน Motor Show ในช่วงปลายเดือนมี.ค.-ต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาช่วยหนุนในส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อยู่บ้าง แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับที่ไม่มาก ประกอบกับธนาคารยังมีความระมัดระวังการปล่อยสินเชื่อ จากภาวะหนี้ตรัวเรือนที่ยังสูง และเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวกลับมาชัดเจน
ด้านธุรกิจตลาดทุนในช่วงไตรมาส 2/67 เริ่มเห็นการฟื้นตัวกลับมาเล็กน้อย แต่ยังไม่มีส่งผลบวกต่อรายได้ค่าธรรมเนียมของกลุ่มทิสโก้มากนัก แต่ในช่วงไตรมาส 2/67 จะมีรายได้ที่มาจากการเสนอขาย IPO และนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯของ บมจ.นีโอ คอร์ปอเรท (NEO) มีการรับรู้รายได้เข้ามา ช่วยหนุนรายได้ค่าธรรมเนียมในไตรมาส 2/67 ได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม จากภาพของเศรษฐกิจไทยที่ยังเผชิญปัจจัยท้าทาย ความผันผวน ประกอบกับตัวเลขยอดขายรถยนต์ในช่วงไตรมาส 1/67 หดตัวลง ซึ่งไม่เป็นไปตามที่ธนาคารได้คาดการณ์ไว้ และภาวะหนี้สินครัวเรือนสูง ทำให้ธนาคารมีการดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังมากขึ้น ซึ่งอาจจะมีผลกระทบต่อการปรับประมาณการณ์ในส่วนของเป้าหมายสินเชื่อในปี 67 ลดลงมาที่ระดับ Low single digit จากเดิมที่คาดว่าอยู่ที่ระดับ High single digit ซึ่งสอดคล้องกับสถาการณ์ที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้แนวโน้มของสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของธนาคารคาดว่าอาจจะเพิ่มขึ้นมาที่ 2.5-2.6% จากไตรมาส 1/67 ที่ 2.27% ส่วนหนึ่งจะมาจากสินเชื่อกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูง (High yield) แต่ยังคงเป็นระดับที่ธนาคารยังมีความสามารถในการบริหารจัดการได้
ขณะที่ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) ยังมีแนวโน้มปรับลดลงบ้างจากไตรมาส 1/67 ที่ 4.8% จากการที่ธนาคารออกแคมเปญเงินฝากดอกเบี้ยสูง และหากมีการให้สินเชื่อกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่มากขึ้น จะมีผลต่อการปรับตัวลงของ NIM แต่คาดว่าภายในปี 68 จะเห็นระดับของ NIM เริ่มทรงตัว