นายชาลี จังวิจิตรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อีเอ็มซี (EMC) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 บริษัทมีรายได้รวม 209.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.49 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10.98% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 26.34 ล้านบาท พลิกจากไตรมาสเดียวกันปี 66 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 56.48 ล้านบาท ถือเป็นการกลับมามีกำไรครั้งแรกในรอบ 2 ปี มีผลมาจากการปรับปรุงโครงสร้างและการบริหารจัดการภายในองค์กรที่ดียิ่งขึ้น
ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีสะท้อนให้เห็นสัญญาณที่ดีของบริษัท โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) มูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท โดยเป็นโครงการอาคารโรงพยาบาลตากสิน และอาคารเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในปี 67 บริษัทจะเข้าร่วมประมูลโครงการก่อสร้างและปรับปรุงโรงพยาบาลต่างๆที่ EMC มีความชำนาญมาอย่างยาวนาน โดยมีมูลค่างานประมูลรวมกว่า 5,000 ล้านบาท อาทิ อาคารโรงพยาบาลของกลุ่มโรงพยาบาลบางปะกอก กลุ่มโรงพยาบาลสำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร และกลุ่มโรงพยาบาล วิภาราม-สินแพทย์
นอกจากนี้ ยังมีงานภาครัฐที่จะมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการขยายสนามบินเชียงใหม่ ระยะที่ 1 ของ บมจ. ท่าอากาศยานไทย โดยเป็นงานก่อสร้างอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ และปรับปรุงอาคาร ผู้โดยสารเดิมเป็นอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ มูลค่างานส่วนอาคารกว่า 4,000 ล้านบาท รวมถึงโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใน EEC เป็นต้น
สำหรับการสร้างธุรกิจ New S-Curve ที่จะสร้างการเติบโตที่ดีให้กับบริษัทในอนาคต ได้แก่ ธุรกิจเทคโนโลยีและไอที, ธุรกิจยูทิลิตี้ และธุรกิจ Oil & Gas นั้น จะดำเนินการอยู่ภายใต้โครงสร้าง บมจ. อีเอ็มซี เอ็กซ์ (EMCX) ที่อยู่ระหว่างการจัดตั้งเป็นบริษัทโฮลดิ้ง เพื่อเตรียมความพร้อมในการสร้างความเติบโตของธุรกิจใหม่ในระยะยาว
EMC ยังอยู่ระหว่างออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวนไม่เกิน 8,434,049,054 หุ้น และออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (Warrant) ซื้อหุ้นของบริษัทครั้งที่ 7 (EMC-W7) ไม่เกิน 4,217,024,527 หน่วย ) ในอัตรา 1 หุ้นสามัญต่อ 1 สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิมโดยไม่คิดมูลค่า อัตรา 2 หุ้นสามัญใหม่ ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ อายุ 3 ปี เปิดจองซื้อและชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนระหว่างวันที่ 27 พ.ค.-7 มิ.ย.67 เมื่อการเพิ่มทุนเสร็จสิ้น บริษัทจะมีความพร้อมในการสร้างธุรกิจ New S-Curve จากธุรกิจใหม่ได้ทันที