นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น (MOSHI) ร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1/67 บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 691.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9 % เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีสัดส่วนรายได้จากกลุ่มค้าปลีก 563.90 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 82% กลุ่มค้าส่ง 111.75 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 16% และช่องทางการจัดจำหน่ายอื่น 16.15 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 2% ส่งผลให้มีรายได้รวม 695.75 ล้านบาท เติบโต 23.1% และทำกำไรสุทธิได้ 125.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นับเป็นการทำรายได้และกำไรสุทธิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High)
ปัจจัยมาจากรายได้จากการขายของสาขาเดิม และรายได้จากสาขาใหม่ที่เปิดสาขาเพิ่ม 9 สาขาในไตรมาสแรกปีนี้ หนึ่งในนั้นรวมถึงสาขา Standalone แห่งแรกในเชียงราย ปัจจุบันได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีแผนขยายสาขาในรูปแบบดังกล่าวเพิ่มเติมในอนาคต
ประกอบกับ ในปีที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ภายใต้ชื่อ Garlic เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นไปในแนวทาง Chic & Cool ซึ่งแตกต่างไปจากผลิตภัณฑ์ของ Moshi ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทฯ สามารถเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ได้ตามที่ได้ตั้งเป้าไว้ ปัจจุบันมีสาขาภายใต้ชื่อ Garlic ทั้งสิ้น 3 สาขา
ขณะเดียวกัน บริษัทได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคกว่า 3,000 SKUs ในหลากหลายรูปแบบและประเภทสินค้า มีการนำเสนอสินค้าไอเทมใหม่ๆ ให้เหมาะสมกับ Seasonal Effect อาทิเช่น ปีใหม่ วันเด็ก วันวาเลนไทน์ เป็นต้น พร้อมกันนี้ ยังเห็นการเติบโตของยอดขายจากช่องทางออนไลน์ที่เติบโต 340.8 % จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากยอดจองซื้อสินค้าคอลเลคชันลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์ศิลปินเกาหลีชื่อดัง ที่มีการสั่งจองล่วงหน้าจากช่วงสิ้นปี 2566 อีกทั้ง ได้ทำการตลาดและโปรโมชันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับผลตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า
"ยอดขายตามเทศกาลต่างๆ เริ่มเห็นแนวโน้มฟื้นตัว โดยเราเห็นการฟื้นตัวของสาขาที่มีนักท่องเที่ยวเป็นลูกค้าหลักซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ประมาณ 20% ของรายได้รวม บริษัทฯ คาดว่าภาคการท่องเที่ยวจะทยอยปรับตัวดีขึ้นจากการยกเว้นการตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าฟรีให้แก่นักท่องเที่ยวชาวจีนและคาซัคสถาน ซึ่งคาดว่าจะทยอยกลับไปสู่ระดับก่อนโควิดได้ในปีถัดไป" นายสง่า กล่าว
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวเพิ่มว่า แผนการดำเนินงานในปี 67 บริษัทฯ มุ่งมั่นเฟ้นหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อมอบความสุขให้ผู้บริโภคอยู่เสมอ ด้วยแนวทางการทำธุรกิจที่ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง Customer Centric เน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีด้วยการทำความเข้าใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ศึกษาข้อมูลนับตั้งแต่ช่วงแรกที่ลูกค้ารู้จักแบรนด์ตลอดจนถึงตอนตัดสินใจซื้อ เพื่อวางระบบที่เอื้อต่อการสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อ MOSHI ในระยะยาว ขณะเดียวกัน เตรียมสร้าง Brand Awareness มากขึ้น จากการทำกิจกรรมและขยายสื่อใหม่ๆ ช่วยสร้าง Engagement กับกลุ่มลูกค้าเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ได้ปรับเพิ่มเป้าหมายการเปิดสาขาร้าน Moshi Moshi ใหม่ในปีนี้ จากเดิมที่ตั้งไว้ที่ 20 สาขา เพิ่มเป็น 30 สาขา (รวม Standalone) โดยมีแผนเปิดให้ครอบคลุมจังหวัดใหม่ๆ เพิ่มอีกประมาณ 10 จังหวัด ที่ยังไม่เคยมีสาขาของร้าน Moshi Moshi โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาค้าปลีกและค้าส่งที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 140 สาขา (ณ สิ้นไตรมาส 1/67) แบ่งเป็น ร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 133 สาขา, ร้านค้าส่งแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 2 สาขา, ร้าน Garlic 3 สาขา, ร้านค้าส่ง Giant 1 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station 1 สาขา