นายสมชาญ ศุภปีติพร ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง บมจ.เบทาโกร (BTG) เปิดเผยว่า เบทาโกรให้ความสำคัญการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง เนื่องจากเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตสูงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาและยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคต ล่าสุดจึงวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจสัตว์เลี้ยง โดยขยายกำลังการผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง (Capacity Expansion) ที่โรงงานลพบุรีเพิ่มขึ้นเป็น 110,000 ตันต่อปี และลงทุนในระบบด้วยเทคโนโลยีการผลิตและจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าอัตโนมัติ (ASRS ? Automated Storage/ Retrieval System) โดยการใช้โปรแกรม WMS (Warehouse Management System) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการคลังสินค้าได้อย่างแม่นยำ สามารถตรวจสอบย้อนกลับสินค้าอย่างถูกต้องและรวดเร็วทำให้อาหารมีความปลอดภัยสูงสุดเพื่อสัตว์เลี้ยงที่แสนรัก
พร้อมรุกตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ "เพอร์เฟคต้า (Perfecta)", "ด็อก เอ็นจอย (DOG n joy)" และ"แค็ท เอ็นจอย (CAT n joy)" รองรับกับความต้องการของตลาดที่ขยายตัวทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
ขณะเดียวกัน บริษัทวางกลยุทธ์เพิ่มพอร์ตสินค้าระดับพรีเมียม เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร เพิ่มรายได้และส่วนแบ่งการตลาด โดยนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงด้วยมาตรฐานระดับโลกของเบทาโกร และล่าสุดเปิดตัว "เพอร์เฟคต้า (Perfecta)" สูตรพิเศษ "โฮลิสติก เกรนฟรี" (Holistic Grain Free) มอบโภชนาการครบถ้วนที่เหนือกว่า ด้วยการดูแลสุขภาพสุนัขและแมวที่ดีแบบองค์รวม โดยมีจุดเด่นคือ ปราศจากธัญพืชและผลพลอยได้ (by-products) ช่วยลดความเสี่ยงการแพ้ ที่ก่อให้เกิดอาการคัน ขนร่วง ผิวหนังอักเสบ ทั้งยังใช้เนื้อสดเบทาโกรมาตรฐาน Human Grade เป็นส่วนผสมหลักอันดับ 1 ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพสูง ปราศจากการใช้ยาปฏิชีวนะ และย่อยง่ายด้วยพรีไบโอติกส์จากธรรมชาติ หรือฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต โดยมีวางจำหน่ายครอบคลุมทั้งใน pet shop, คลินิก และแพลตฟอร์มออนไลน์
"เรามุ่งมั่นคิดค้น วิจัยและพัฒนานวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงที่มีคุณภาพ และความปลอดภัยขั้นสูงสุด มั่นใจได้ว่ามีคุณค่าและโภชนาการที่ดีกว่าสำหรับสุนัขและแมว โดยที่ผ่านมาเพอร์เฟคต้า (Perfecta) ผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมี่ยมเป็นแบรนด์แรกของไทยที่เปิดตัวอาหารสัตว์เลี้ยงสูตรประกอบการรักษาโรค (Perfecta Vet Diets) และอาหารสัตว์เลี้ยงสูตรที่ช่วยปกป้องดูแลได้อย่างตรงจุดตั้งแต่เริ่มแรก (Perfecta Care) ลดโอกาสความเสี่ยงเกิดโรค ช่วยคลายความกังวลใจ และลดภาระค่าใช้จ่ายหมวดค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยง
และล่าสุดเรายังได้เปิดตัวเพอร์เฟคต้า สูตรพิเศษ โฮลิสติก เกรนฟรี (Perfecta Holistic Grain Free) โดยเบทาโกรถือเป็นผู้ผลิตรายแรกของไทยที่ใช้เนื้อสด ระดับ human grade เป็นส่วนผสมหลักอันดับ 1 ซึ่งจะช่วยปกป้องดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักให้แข็งแรง มีชีวิตยืนยาว และเติมเต็มความสุขให้กับทุกไลฟ์สไตล์ของครอบครัว ตอกย้ำความมุ่งมั่นเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงเกรดพรีเมี่ยม ที่มีสินค้าครอบคลุมทุกความต้องการของผู้เลี้ยงสุนัขและแมวต่อไป" นายสมชาญ กล่าว
ทั้งนี้ เบทาโกร มองเทรนด์การเลี้ยงสุนัขและแมวในช่วง 5 ปี (2566-2570) จากแนวโน้มการขยายตัวของสังคมเมือง (Urbanization) ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านประชากร ทั้งครอบครัวมีขนาดเล็กลง อยู่เป็นโสดกันมากขึ้น รวมถึงประชาชนกลุ่มผู้สูงอายุ (Silver Age) ทำให้การเลี้ยงสุนัขและแมวเพื่อเติมเต็มความมีชีวิตชีวาให้กับทุก Generation มาแรงอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญยังเลี้ยงเสมือนเป็นลูก หรือเป็นสมาชิกในครอบครัว (Pet Humanization/ Pet Parent) โดยใส่ใจในการดูแล เลือกอาหารที่ดีมีคุณภาพสูงสุด สามารถช่วยปกป้องดูแลสุขภาพสัตว์เลี้ยงได้อย่างตรงจุด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ซึ่งจากข้อมูล Euromonitor คาดการณ์ว่า ตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงในช่วง 5 ปี (2566-2570) จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยกว่า 10% ต่อปี หรือมีมูลค่า 82,000 ล้านบาท และสำหรับปี 2567 มีมูลค่า 56,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ธุรกิจสัตว์เลี้ยงของเบทาโกร ครอบคลุมผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยง ขนมขบเคี้ยว และผลิตภัณฑ์ดูแลสัตว์เลี้ยงสุนัขและแมว ภายใต้วิชั่น "ช่วยเพิ่มคุณค่าของชีวิตสัตว์เลี้ยง ด้วยอาหารที่ดีกว่า" ด้วยมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงขั้นสูงสุด คุณภาพและความอร่อยที่เหนือกว่า ราคาที่เป็นธรรม ทำให้ทุกผลิตภัณฑ์ของเบทาโกรตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้เลี้ยงได้อย่างครอบคลุม สร้างความสุข และสุขภาพที่ดีให้กับสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก